เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

รวบรวมบล็อกเริ่มต้น ,How to..... สัมภาษณ์ประสบการณ์คนดัง สอนยังไง ฝึกภาษาอังกฤษยังไงให้ได้ผล

วันนี้ขอทำเรื่องที่ติดค้างกับพี่หน่อย (แม่กายแก้ม) มานาน พี่หน่อยเคยบอกว่าให้ภาเอากระทู้บล็อกต่างๆที่เคยรวบรวมไว้ในห้องขอนแก่น มารวบรวมให้เพื่อนๆชาวอุบลฯ ได้อ่าน วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดี อิอิ ขอไปก๊อปจากห้องขอนแก่นมาก่อน แล้วถ้ามีเวลา จะไปสัมภาษณ์เพิ่มนะคะ มีคนที่สอนลูกสำเร็จเพิ่มขึ้น และมีคนที่เก่งภาษาอังกฤษหลายๆท่านที่เข้ามาเป็นกำลังสำคัญใน web จะไปสัมภาษณ์มาให้ว่า เค้าทำยังไง ฝึกฝนยังไงกันบ้าง ถึงได้เก่งภาษาอังกฤษกัน เผื่อจะเป็นประโยชน์กับสมาชิกในห้องเรา ให้ไปฝึกลูกและฝึกฝนตนเอง ให้เป็นเด็กสองภาษาและผู้ใหญ่สองภาษานะคะ :)

บล็อกนี้ขอรวบรวม บล็อกเริ่มต้น บล็อก How to... พัฒนาการคร่าวๆให้เห็นภาพ จากหลายๆคนในเวปที่น่าสนใจ สำหรับคนเข้ามาใหม่ยังไม่ได้อ่าน หรือว่า อยากอ่านแล้วอ่านอีกปลุกความมุ่งมั่นตั้งใจนะคะ ช่วยภาไป link  ที่ตัวเองชอบมาด้วยนะคะ บางทีภาจำไม่ได้

 

บล็อกภาเอง เขียนเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา ตอนฝึกเจ้าขาได้ประมาณ 5 เดือน เขียนสำหรับคนไม่เก่งอังกฤษและสอนลูกตอนโตนะคะ

 

ตอนพัฒนาตัวแม่

 

http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:76988

 

ตอนสอนลูกยังไงดีน้า

 

http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:76989

 

อันนี้ฝึกประสบการณ์ภาเอง ในการฝึกเป็นผู้ใหญ่สองภาษา แต่ใช้ฝึกภาษาจีน เริ่มต้นจาก 0 ก็ฝึกได้จริงๆนะ (สำหรับคนที่อยากเป็นผู้ใหญ่สองภาษา ไม่ควรพลาด :)  )

 

http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:680895

 

 

จากกระทู้นี้นะคะ ของห้องขอนแก่นเค้า ยังไม่ได้ขออนุญาตประธานห้องเค้าเลย อดีตประธาน อนุญาตไปก่อนละกันค่ะ 555

http://go2pasa.ning.com/group/khonkaen/forum/topics/how-to-1

 

 

อันนี้ ผู้ใหญ่สองภาษาก็ไม่ควรพลาดเช่นเดียวกัน สัมภาษณ์ครูในห้อง eng นะคะ ทำไมถึงเก่งภาษาอังกฤษกัน โดยแม่อ้อ คุณแม่น้องฟ้าใสค่

 

http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/2456660:Topi...

 

 

Views: 1643

Replies to This Discussion

อ้อลืมค่ะ ถึงคุณพ่อคุณแม่สองภาษาที่น่ารักทุกท่าน สิ่งที่ทุกคนกำลังทำคือความรักที่ทุกคนมีให้ลูกให้หลานของเรา สิ่งที่ทุกท่านทำ เพื่ออนาคตของลูกหลาน แพทขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ ก้าวไปข้านหน้าด้วยกัน ความฝันไม่ไกลเกินเอื่้อม สู่ๆนะค่ะ

สัมภาษณ์ดา แม่น้องเคท จั่วไว้ก่อน รอหน่อยนะคะ

 

รอนานเลยนะคะหมอภา เพราะกำลังรวบรวมความคิดอยู่ค่ะ เพราะที่ดาสอนๆลูกก็จะเน้นว่าทำไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีหลักการอะไรพิเศษ บางทีก็หรือหลายๆเราก็มาลอกไอเดียจากแม่ๆเก่งๆในเวปนี้ล่ะค่ะ

1.เริ่มสอนน้องเคท ครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่ค่ะ
ตอบ เริ่มสอนเคทตอน 2 ขวบแปดเดือนค่ะ เป็นแบบสองภาษานะคะ คือตัดสินใจหักดิบใช่ระบบโอพอลและทำตามหนังสือคุณบิก อ่านไปไม่รู้ว่ากี่รอบค่ะ เมื่อไรติดตรงไหน สงสัยอะไรก็จะกลับมาอ่านหนังสือและดูคลิปวีดีโอเพ่ยเพ่ยตลอด เพื่อปลุกปั้นกำลังใจว่า เราต้องทำให้ได้ค่ะ

2.อุปสรรคในการสอน คืออะไรบ้างคะ
ตอบ อุปสรรคในการสอนน่าจะแบ่งเป็นสองประเด็นค่ะ
ประเด็กแรก คือภาษาอังกฤษของตัวเองเหมือนจะดี แต่มันไม่ดี ปกติก็พอพูดกับฝรั่งได้ ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ก็เดาๆกันไป แต่ก็ชอบภาษาอังกฤษ ชอบฟังเพลง หรือสื่ออะีไรที่เป็นอังกฤษก้อจะพยายามอ่าน แต่ตั้งแต่ตัดสินใจมาคุยกับเคท ก็ติดศัพท์มากมายเลย ทุกอย่าง ทุกอัน กลายเป็นคำถามที่้ต้องไปโพสถามที่ห้องอังกฤษค่ะ

ประเด็นที่สอง คือ คนรอบข้างเริ่มรู้ว่าเราจะพูดอังกฤษกับลูก ก็จะมีหลายๆเสียงมาแนะนำ เช่น ภาษาไทยให้เก่งก่อน สำเนียงไม่ดีดาจะสอนได้หรือ ลูกจะสับสนนะ ลูกจะพูดช้า พูดไม่ชัด อย่าไปยัดเยียดลูกมากไปฯลฯ แต่ดาก็ไม่ฟังค่ะ ขอให้เราลองสักตั้งได้ไหม หากไม่ดีเรากลับมาสอนไทยลูกเหมือนเดิมก็ได้ เพราะคุณบิกได้เขียนในหนังสือแล้วว่าพ่อแม่ธรรมดาก็ทำได้ เราลองทำตามสักทีนะ ลองดู ก็พูดกับตัวเองทุกวัน โชคดีค่ะ ก็มีสามีที่ไม่เคยว่าเราเลย แม้ว่าญาติพี่น้องใกล้ชิดจะแนะนำเชิงห้ามๆด้วย

3.แล้วทำยังไงถึงผ่านอุปสรรคนั้นไปได้จ๊ะ
ตอบ ก็ทำไปเรื่อยๆค่ะ เพียงแค่ได้ลองทำ...แล้วลูกก็ทำให้เราชนะอุปสรรคตรงนั้นได้ ลูกตอบกลับมาได้ดี ทำให้มีกำลังใจจะสอนมากขึ้นไปอีก และกลับไปอ่านหนังสือคุณบิกและพบกับคำหนึ่งที่คุณบิกเขียนว่า โปรดเชื่อในศักยภาพของเด็ก

4.ดาเคยท้อมั้ย ตอนสอนลูก แล้วจัดการกับมันยังไง
ตอบ ไม่เคยท้อเลยค่ะ เพราะไม่เคยคิดว่าเราจะมาได้ไกลถึงขนาดนี้ ทุกวันนี้ก็ดีใจและปลื้มใจมากเวลามีคนมาทักทายและชื่นใจ ก็ปลื้มใจ เพราะหากไม่ได้ซื้อหนังสือคุณบิกมาอ่าน เราก็คงเป็นแม่คนหนึ่งที่ไม่ค่อยใส่ใจในการเลี้ยงลูกเลยค่ะ หนังสือเล่มนี้ช่วยทั้งเรื่องเด็กสองภาษาและเปิดโลกทัศน์ของดาในการเลี้ยงลูกมากค่ะ จากนั้นเราก็นำมาดัดแปลงปรับเปลี่ยนตามสภาพครอบครัวเราค่ะ



5.ดาเคยบอกว่าถูกต่อต้านจากบรรดาญาติๆ แล้วดาอธิบายให้เค้าฟังมั้ย และใช้วิธีการยังไงเวลาที่ต้องพูดกับลูกและออกไปเจอญาติ
ตอบ ก็ไม่ถึงกับโดนต่อต้านนะคะ แต่เขาไม่เห็นด้วย จากสายตาและคำติ ก็ทำให้เรารู้สึกได้ ดาก็พูดอังกฤษกับลูกไปเรื่อยๆนะคะ แบบไม่สนใจค่ะ คนที่มีผลมากที่สุดก็คือแม่ค่ะ แม่ดาเป็นคนห้าม บอกว่าอย่าสอนลูกเป็นเด็กสองภาษาเลย สงสารเคท เขาจะต้องมารับอะไรมากเกินไปในวัยเขา ดาก็คิดมากหลายวันเหมือนกันค่ะ เลยตัดสินใจคุยกับแม่ว่า... แม่เองก็เป็นเด็กสองภาษาเหมือนกัน แม่ไม่เคยพูดไทยกับอาม่าเลย แม่พูดแต่แต้จิ๋วน่ะ 5555 ...อย่าหาว่าย้อนรอยแม่เลยนะคะ เชื่อไหมคะ...แม่ดาเลิกพูดเรื่องนี้เลย ท่านอาจจะกำลังคิดว่า เอ้อ ฉัน..ก็เด็กสองภาษาเหมือนกันนะยะ ทุกวันนี้แม่ดามีแต่ชมให้บรรดาญาติฟังว่าเคทเก่ง พูดอังกฤษกับแม่ แล้วแม่ดาก็ปลื้มค่ะ คุยได้

6.อยู่ต่างจังหวัด มีปัญหามั้ยว่าออกไปข้างนอกคนมอง รึว่าตอนแรกๆที่ลูกยังพูดไทยอยู่ ออกไปข้างนอกดาก็พูดอังกฤษตลอดเลยรึเปล่า หรือใช้วิธียังไง เมื่อต้องอยู่ในที่สาธารณะในต่างจังหวัดในช่วงแรกๆ (ที่ถามช่วงแรกๆ เพราะว่าตอนนี้ยังไงก็ต้องพูดอังกฤษตลอดอยู่แล้วเนอะ)
ตอบ ก็พูดปกติเหมือนอยู่ในบ้านค่ะ แต่ช่วงแรกยอมรับค่ะ พูดเบาๆ ไม่กล้าพูดดังค่ะ เกรงใจ ซึ่งไม่รู้จะเกรงใจใคร อีกอย่างเราก็กลัวพูดผิด แต่ทุกวันนี้ทั้งพูดผิดพูดมั่วก็พูดไป เพราะใจหนึ่งก็คิดว่า ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาเรา แม้ว่าภาษาไทยเราก็ยังพูดผิดเลย อีกหน่อยลูกโตให้มันไปขวนขวายค้นหาคำตอบเอาเองบ้างสิ ทำไมเราจะต้องทำทุกอย่างให้ลูกเลย ให้ไปเจอโลกภายนอก สร้างภูมิให้ตัวเองด้วย

7.ดามีเทคนิคในการสอนยังไง น้องเคทถึงสามารถโต้ตอบได้ ที่บ้านเล่น หรือทำอะไรกันแล้ว work สุด ของบ้านดาจ๊ะ (ขอเคล็ดลับ)
ตอบ อันนี้ไม่มีเคล็ดลับค่ะ เน้นความถี่ ตามคุณบิกเลย
ใช้ภาษาเป็นทุกอย่างของตัวเรา ร่างกายเรา 
8.ตอนนี้ดาก้าวไปสอนภาษาที่ 3 (จีน) แล้ว แบ่งเวลาในการสอนยังไงบ้างคะ มีเทคนิคแนะนำมั้ยเอ่ย
ตอบ สอนภาษาจีนไปได้ช้ากว่าอังกฤษค่ะ เพราะว่าติดคำศัพท์เยอะเลย พยายามพูดอันที่รู้ไปก่อนค่ะ เคทก็โอเคไม่มีต่อต้านอะไร แต่ก็ต้องอาศัยความถี่ค่ะ ทุกวันนี้เขาเข้าใจจีนได้ดีขึ้นแต่ยังตอบกลับไม่เก่ง เพราะว่าความถี่และคลังศัพท์ยังไม่มากพอค่ะ แต่ลูกก็พยายามสื่อสารกับแม่ คือ ช่วงจีนก็ต้องจีน ช่วงอังกฤษก้ต้องอังกฤษค่ะ
ก็เชื่อในคำหนึ่งที่ภาเคยพูดไว้ว่า เราไม่มีกำหนดส่งงาน ก็เอาข้อนี้มาใ้ห้เวลากับตัวเองมากขึ้นค่ะ 

9.อยากฝากอะไรถึงพ่อแม่สองภาษาบ้างคะ (คำแนะนำ กำลังใจ)
ตอบ ความพยายาม ความมุ่งมั่นนำมาซึ่งความสำเร็จค่ะ ที่บ้านไม่ได้มีเงินทองมากมายให้ลูก แต่การได้สอนภาษาเขาเองตามหลักธรรรมชาิติที่คุณบิกแนะนำก็ช่วยให้เราประหยัดเงินได้เยอะเลยค่ะ
ตั้งใจว่าเงินก้อนนี้จะเก็บเอาไปเที่ยวตปท.สักวันทั้งครอบครัวค่ะ 
ขอให้คุณตั้งใจทำ ทำตามหนังสือคุณบิกเลยค่ะ ทำได้แน่นอน รับประกัน

สัมภาษณ์พี่ตังโอ นะคะ

 

ตอบภา น้ำพี่เยอะกว่าเนื้อนะ


เริ่มสอนน้องปั้น น้องแป้ง ครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่ค่ะ
ปั้น 2.6 แป้ง2.7 เริ่มลำนำ ก่อนแม่ด้วยเพลง และการ์ตูน ตอนนั้นโดร่า ลูกชอบเรื่องไหนก็เรื่องนั้นล่ะค่ะ ไปก่อน ไม่บังคับว่าต้องคายุ ส่วนแม่ซุ่มซ้อมฮาโหลคนเดียวไปก่อน
เริ่มSpeak เลยเนี่ย ทุกจังหวะที่คิดออก ทุกครั้งที่เจอลูก เพราะเวลามีเท่านั้น หมูมากาไก่จับมาพูดหมด เกียวไม่เกียวเอามาพูดหมด เริ่มสร้างความแปลกประหลาดให้ลูก
ทุกครั้งที่เจอหน้ากันตอนนั้น ลูกปั้น2.7-2.8 แป้งก็2.9 ได้ค่ะ

อุปสรรคในการสอน คืออะไรบ้างคะ
ความรู้และฝึกฝนตัวเองนี่ คิดว่าน้อยอยู่ เพราะไม่เก่งอังกถษ ต้องขยัน หา ความรู้เพิ่ม เพื่อจะได้ปรับปรุงค่ะ self study ไม่ค่อยมากค่ะ เลยอาศัยจดมา ท่อง ๆ ใช้ไปๆ ก่อน
สรุป อุปสรรคคิดว่า อยู่ที่แม่ มากกว่าค่ะสำหรับตัวเอง
ส่วนลูก ปั้น มี ต้านแรกๆบ้าง แต่แม่ก็ ต้านก็ปล่อยไปก่อน สอนน้องแทนค่ะ ไม่บังคับ

แล้วทำยังไงถึงผ่านอุปสรรคนั้นไปได้คะ
สำหรับพี่ก็พยายามขยันหน่อย พูดมากอยู่แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นโหมดอังกถษ เอาสั้นๆซ้ำๆไปก่อน
อย่างที่บอกค่ะ ว่าไม่บังคับนะคะ แต่หนูพูดอะไรมา แม่(พยายาม)พูดอังกถษกลับสั้นๆง่ายๆ(เพราะแม่ก็ไม่ได้มาก) ตลอดเวลา ช่วงแรกลูกเดินหนี หลังแม่ตอบ หลังๆมา ก็เริ่มฟังไปเอง
การตอบสนองของน้องแป้ง ในการพูดwhat’s that? เองครั้งแรก ทำให้เรามีพลังทำต่อไปค่ะ

พี่ตังโอเคยท้อมั้ยคะ ตอนสอนลูก แล้วจัดการกับมันยังไง
จำไม่ได้ ค่ะ ไม่เชิงท้อ แต่ เชิง เฝ้ารอ ลุ้น……..(ก็ตอนนั้นลูก ฟังรู้หมด เหลือแต่ เมื่อไรจะเริ่มพูด รอพิกุลอังกถษ ดอกแรกร่วงค่ะ อิอิอิ)
จัดการยังไง ก็ มาโพส ถาม หรือ ระบายที่ เว๊ป นี้ล่ะค่ะ เพราะมีเพื่อนร่วมปรึกษาร่วมทางเยอะ กำลังใจเพียบ

พี่ตังโอ ไม่มีเวลา เพราะทำงานหนัก แล้วแบ่งเวลาในการสอนลูกยังไงเอ่ย เอาเวลาไหนสอนคะ

เอาเวลาที่เห็นหน้าลูกทุกครั้ง พูดตลอดค่ะ พูดประโยคไม่ได้ ก็เอาศัพท์ไว้ก่อน โดยมีประโยคหากินคือ what is that/this? ไม่รู้ศัพท์ก็ พูดศัพท์เก่าที่รู้ ร้องเพลงเด็กภาษาอังกถษ ทุกอย่างที่ เกี่ยวกับอังกถษเท่าที่คิดออกและ ทำได้ 555 คล้ายๆแม่เล่นโชว์ไป โชว์ของแม่ก็ไม่นาน บนรถทุกวัน วันละ30-40นาที ตอนเทียวไป ทำงาน ตอนนั้นแป้งยังไม่ไป รร
แล้วก็ก่อนนอนค่ะ ได้เท่าที่ได้ค่ะ พรุ่งนี้เอาใหม่ค่ะ (ถ้าแม่ไม่หลับก่อน อิอิ)

แล้วพี่คิดว่ามันต้องใช้เวลามากมั้ยคะถึงจะสอน จนน้องพูดได้

พี่ยังไม่ทันได้คืดว่ามันต้องนานเท่าไร แต่พี่ดูพัฒนาการของลูกเองแล้วคิดเองว่า น่าจะพูดได้เองแล้ว เพราะรู้เรื่อง เข้าใจ รู้คำ พูดศัพท์เป็นคำๆได้
ดูเป็นรายๆไปค่ะ บางที อินพุทน้อย ต่อวัน แต่ ทำนานแล้วอาจจะยังไม่พูดก็ได้ แล้ว แต่พัฒนาการของเด็กแต่ละคนด้วยค่ะ
ไม่อยากจะให้คิดเป็นระยะเวลาว่านานเท่าไร ถึงจะพูด แต่ตัวเองคิดแต่ว่า วันนี้ ต้องพูดอะไร กะลูกบ้าง หรือ ลูกได้อะไรใหม่ๆเพิ่มขึ้นบ้างไหม ในแต่ละวัน ที่เพิ่มขึ้นค่ะ
อ้อทุกวันนี้ ไม่ใช่อินพุทเยอะ ปริมาณเยอะอย่างเดียวนะคะ แต่คุณภาพ เสียงชัดเจน สำคัญกว่าปริมาณอีกค่ะ เห็นคุณบิ๊กเน้นคุณภาพนะคะ ดังนั้นพ่อแม่ที่เพิ่งเริ่มหรือน้องอยู่ในช่วงกำลังออกเสียง เลยโชคดีเลยค่ะ จะได้เริ่มเสียให้ถูกต้อง พร้อมๆกัน ทั้งเสียงที่ชัดเจนและความถี่ เลยค่ะ

น้องปั้นกับน้องแป้งสอนแตกต่างกันมั้ยคะ เด็กเล็กกับเด็กโต ขอเทคนิคในการสอนหน่อยค่ะ ทั้ง 2 คนนะคะ เล่นอะไรหรือทำอะไรกันแล้ว work สุดๆของบ้านพี่ (เอาแบบเน้นๆ อิอิ)
ต่างกันมากค่ะ
อย่างแป้ง อายุไม่ถึง2ขวบ1 ขวบ8เดือน เขารับเลย เหมือนสอนพูดไทยไม่ต้าน รับอย่างเดียว
และก็ชอบอ่านหนังสือเองเป็นทุน เวลาชี้ภาพในหนังสือก็ทำให้เพิ่มศัพทืได้ง่าย
แต่ปั้น โตแล้ว แต่ว่า เดิมไทยก็พูดไม่เก่ง 2.6-7 ปี พูดเป็นคำๆ สอนด้วยหนังสือไม่ได้ ชี้ให้ดูไม่สนใจ แต่ถ้าเป็นกิจกรรม ที่ได้ทำเองได้เล่นจะได้เช่น เล่นบทบาทสมมติ อยากให้รู้ศัพท์เกี่ยวกับอะไรต้องพาไปดู ไปสัมผัส แทบของจริง ค่ะ หนังสือชอบดูเอง แต่ยังอ่านไม่ออกนะคะ
แรกที่ลูกต้าน เราก็ ปล่อยไป ดูท่าทีว่าลูกชอบอะไร เข้าปั้นชอบเต้น ชอบผจญภัยค่ะ เลยจัดการเอาเพลงเต้น มาร้องและเต้น ส่วนการ์ตูนที่ดู เริ่มเอาคายุ วันเดอร์เพท ก็ดูได้หมด พอเขาเข้าใจจาการ์ตูน และเรายังคงยืนยันใช้ภาษาอังกถษอยู่ และเห็นน้องพูดกะแม่ เขาก็ร่วมแจมบ้างค่ะ

มีคนบอกว่าลูก 2 คนวุ่นวายไม่รู้จะสอนคนไหน สอนคนนี้ อีกคนก็มากวน พี่มีวิธีจัดการยังไงคะ
มันก็จริงนะภา มันวุ่นจริงๆลูกบ้านนี้ ของพี่ นี่ปล่อยเลยนะ แต่ที่ต้องพยายามปรับปรุงคือก่อนเจอลูก คิดไว้เลยว่าน่าจะเพิ่มหรือแทรกความรู้อะไรบ้าง คือหาเมนท๊อปปิคไว้ล่วงหน้า จะพูดอย่างไรดี ก็น่าจะทำแพลนไว้ว่า อาทิตย์นี้ จะเอาประมาณนี้
แต่พอถึงเวลา คิดไม่ออก คุมเกมที่สวยหรูไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ทำใหม่ทำอีก อย่างเข้าปั้น จะสอนคำว่า
Pour คำเดียว แม่ก็ต้อง เตรียม ของเล่น tea pot แก้ว ให้เขาเทน้ำเล่น ค่ะ หรือสอนchop ก็เตรียม อุปกรณ์มีดพลาสติค ตัดผลไม้หั้นแอปเปิ้ลเลยค่ะ เขาชอบสนุก เล่นไปเรียนไป เท่าที่จะสรรสร้างฉากได้ หาเกมหลายอย่างค่ะ มาช่วย เช่นปิดไฟ เปิดไฟฉาย ชี้สิ่งของในห้องนอน หรือฉากที่เตรียม คล้ายๆ I spy แต่ spy ของจริงตอนก่อนอน มืดๆค่ะ ประมาณนี้ค่ะ
พาอ่านหนังสือ เขาชอบอะไร ให้เขาอ่านที่ชอบ อย่างพี่ปั้นชอบเจ้าหญิง ๆ ก็หานิทานเจ้าหญิงหรือ vcd ให้เขาดู เช่นพี่ ปั้นก็จะดู อลาดิน เขาเริ่มจากหนังสือ และก็ต่อมาการ์ตูนอลาดิน เขาดูได้ไม่เบื่อหลายๆรอบ แต่เราก็ต้องจำกัดเวลาด้วยเพราะ พวกนี้ หนังยาวค่ะอาจดูเสาร์อาทิตย์ และเรื่องต้องไม่อินเลิฟเกินค่ะ
สรุป บ้านนี้เน้นเพลง เน้นเต้น หรือไม่ก็ activity ร่วมด้วยค่ะ
ช่วงหลังๆก็ปล่อยให้เขาเล่นไปตามธรรมชาติ และ ดูว่า เราจะแก้ประโยคอะไรให้ถูกต้องกะเขาเลยค่ะ

พี่ตังโอ ก็เป็นอีกคนนึงที่บอกว่า ไม่เก่งอังกฤษ แล้วพี่มีวิธีพัฒนาตัวเองยังไงบ้างคะ ถึงทำให้พูดกับลูกได้ตลอด

พี่ก็ยังไม่เก่งเหมือนเดิมแหละภา แต่พี่เอาใจสู้ ลอกประโยคมาท่องมาแปะติดห้องน้ำ นั่งส้วม(ขออภัย) แปรงฟันก็เห็น เดินเข้าเดินออกก็เห็น จะจำไม่ได้เชียวหรีอ
ดูการ์ตูนกะลูกบ้าง และตัวเองก็ปรับปรุงการฟังด้วยการฟังmp3 ช่วงเวลาว่างๆ ก่อนนอน ที่ทำงาน
แต่หลักๆช่วงแรกที่เอามาใช้ เอามาจากห้องอังกถษของเรานี่ล่ค่ะ คัดสรรมาว่า ตัวเองมีโอกาสจะใช้ประโยคไหนบ้าง ประโยคไหนน่าใช้บ้าง คำไหนที่ยังติดตลอดบ้าง ก็ คัดสรร ออกมา
ดู แปะตติด ท่องค่ะ ซื้อหนังสือทั่วไป กก อังกถษ เต็มไปหมดมาอ่าน แต่ก็ อ่านไม่จบ หรือ ยังไม่อ่านก็มีค่ะ เพราะ ถึงที่ทำงานก็เข้าเวปเลย
เวลาผ่านไป 1 ปี เวลาดูการ์ตูนกะลูกแม่เปิด ซับ ลูกบอกเอาไอ้นี่ออกได้ไหมมันบัง(ซับไตเติ้ล) อ้าวแล้วแม่จะดู รู้เรื่องเหรอเนี่ย
เวลาณ ปัจจุบันก็ยังฟังฝรั่งไม่ออก ยกเว้นพูดช้ามากๆจริงๆ ต้องฝึกตัวเองอีกแบบเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ……

คือถึงที่สุดแล้ว เด็กที่เดินตาม เส้นทางสองภาษาในบ้าน เชื่อว่า ต้องพูดได้หมด แน่นอน แต่ ช้าเร็วต่างกันบ้าง แล้วแต่ความถี่ แต่การพูดได้ช้าเร็ว ไม่สำคัญ เท่าคุณภาพการออกเสียง อย่างที่คุณบิกบอก และตัวเองก็คิดว่า ณ จุดๆที่ผ่านเสต็ป ที่ลูกพูดได้แล้ว นั้น ด่านต่อไป คือการประคองหรือพยุงการพูด นี่ก็คิดว่า ยากและหนักสำหรับตัวเอง เพราะ มันคงไม่ใช่what’s that? ถามตอบจบแล้วง่ะ แต่มันเป็นบทสนทนาที่ต้องต่อเนื่องซับซ้อน ลื่นไหล เหมือนที่ เรา พูดไทย อะไรแบบนั้น คือ ไม่ได้กะว่าต้องทำเลียนแบบฝรั่งให้ได้จริงๆ แต่โดยธรรมชาติ เวลาพูดไปๆ ในโหมดภาษาอังกถษ ความรู้สึกของคำต่อเนื่อง มันจะมาเอง เลยเป็นการบ้านให้คิดว่า เอ๊ะ พูดว่ายังไง คำเล็กๆน้อยๆเชื่อมต่อประโยค วลี อะไรประมาณนี้ค่ะ หรือ ศัพท์อะไร ที่เพิ่มขึ้นมากๆมาย ตามเหตุการณ์เยอะแยะค่ะ

ซึ่งทั้งหลายก็เป็นการประคอง พยุง อย่างที่ คุณบิ๊ก บอกเรา เป็นงานต่อเนื่องไปเรื่อยๆซึ่งเราเองต้องหมั่นฝึกฝน หาความรู้ในทุกขณะค่ะ อันนี้ ทิ้งไม่ได้เลย เพราะลูกฟังดูการ์ตูนมากกว่าเรา เขารู้เยอะกว่าเราค่ะ เพื่อเป็นคู่สนทนาที่ดี แม่เลยต้องเรียนรู้ อยู่ตลอดเวลาค่ะ

ตอนนี้พี่ตังโอก้าวไปสอนภาษาที่ 3 (จีน) แล้ว แบ่งเวลาในการสอนยังไงบ้างคะ มีเทคนิคในการสอนยังไงเอ่ย

ภาษาจีน แค่ก้าวแรก อยู่ค่ะ คือก้าวข้ามความรู้สึกว่ามันยากไม่อยากรับรู้จีน
ก้าวข้ามนี้มาแล้ว เท่านั้นเองค่ะ ดีใจมาก (ขอบคุณน้องดาที่ชักนำจริงๆ)
พี่ไม่ได้สอนอไรมาก อาทิตย์ละครั้งหรือ สองอาทิตย์ครั้งได้ ที่คิดว่า เพราะ อยากให้ภาษาอังกถษข็งแกร่ง มากกว่านี้ก่อนค่ะ แต่คนเป็นแม่พยายามเรียนจีนเองแทนทุกวันไปก่อน เมื่อลูกแข็งอังกถษ และแม่ก็รู้เรื่องจีนมากขึ้น การเรียนการสอนจะเป็นเรื่องเป็นราวชัดเจนค่ะ
ตอนนี้ เก็บศัพท์จีนเท่าที่แม่รู้ค่ะ ทุกครั้งที่เห็นภาพนั้น ๆ จะพูดศัพท์จีนเลย และทุกวันนี้ระมัดระวังเช็คเสียงให้แม่นๆก่อน เดี๋ยวลูกจะจำผิดค่ะ เลยช้าลงเอาแบบคุณบิ๊กว่า ให้เคลียร์ ให้ช้า ให้ชัด สำคัญกว่า พูดเป็นเร็วค่ะ เลยแตะเบรกหน่อยๆ ชะลอ ๆ และทำการบ้านจีน ให้มากขึ้น เช็คเสียงให้ดี ก่อนลูกจะได้ยิน
ลูกก็ดูการ์ตูนจีนบ้างค่ะ ให้ฟังให้คุ้นไปเรื่อยๆค่ะ
แต่ความหวังในการให้ลูกพูดจีนได้ โดยอาศัยหลักแบบ 2 ภาษา ยังเป็นสิ่งที่มุ่งมั่นที่อยากจะทำต่อไป พร้อมๆกับอังกถษค่ะ เพียงแต่จัดสรรจังหวะโอกาสให้เหมาะ ปรับเป็นช่วงๆ ไปค่ะ

อยากฝากอะไรถึงพ่อแม่สองภาษาบ้างคะ (คำแนะนำ กำลังใจ)
อย่าเพิ่งคิดว่ายาก ทำไม่ได้ ลองทำดูก่อนค่ะ ต้องมีจุดเริ่มต้น ถึงจะมีจุดต่อๆไปค่ะ ไม่ทำก็ไม่รู้จุดที่แก้ได้ถูกที่ จุดแก้แต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน คนเราปรับใหม่ได้เรื่อยๆค่ะ เราสามารถถอยเข้าถอยออกได้ ตามความพร้อม ถี่มากน้อยเรากำหนดเอง แต่ถ้าเราไม่เริ่ม หรือ เริ่มแล้วหยุดนาน ปัญหาก็ไม่อาจได้แก้ มีปัญหาไว้ฝ่าฟันค่ะ เริ่มไป ก็ได้ก้าวไปแล้วค่ะ วันละนิดละหน่อย ซักวันคงพอกพูนได้แน่นอนค่ะ สู้ๆนะคะ ไม่ใช่งานหนักหนาเอาเป็นเอาตาย แต่เป็นงานที่ต้องใช้เวลามุ่งมั่นต่อเนื่องเท่านั้นค่ะ
แชมป์...เรื่องเล็ก, เป้าหมาย...เรื่องเล็ก ,ความสำเร็จ...เรื่องเล็ก,แต่การมีเลือด นักสู้...เรื่องใหญ่....เป็นกำลังใจให้ทุกท่านค่ะ

บล็อกนี้ก็อีกบล็อกที่ประทับใจนะคะ และคิดว่าคงประทับใจใครหลายๆคนด้วยค่ะ บล็อกพี่รี พี่รีเป็นครูอีกคนในห้อง eng club ค่ะ เห็นเก่งๆแบบนี้ ประสบการณ์ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันค่ะ


http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:107069

อันนี้พี่อ้อม แม่พี่เมือง น้องขมิ้น มาช่วยจับประเด็นนะคะ :)

อ่านแล้วสบายใจ เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุก ๆ แม่ ๆ ที่ทุ่มเทให้ลูก ๆ เลยจริง ๆ ค่ะ พี่ได้ไอเดียเพิ่มเติมมากมายเช่น
1. อย่าอายทีจะพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติ (คุณแพท)
2. เิปิดใจให้กว้างพร้อมที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา (คุณแพท)
3. ขยันหน่อย (พูดมากอยู่แล้ว) แค่เปลี่ยนโหมด Eng เอาสั้น ๆ ซ้ำ ๆ (คุณตังโอ)
4.โปรดเชื่อในศักยภาพของเด็ก (คุณดา)
5. ทำไปเรื่อย ๆ แค่ลองทำ แล้วลูกจะทำให้เราเอาชนะอุปสรรคไปได้ (คุณดา)
6. เฃื่อว่าต้องพูดได้หมดแน่นอน เต่ช้าเร็วต่างกันบ้างแล้วแต่ความถี่ ....ไม่สำคัญเท่าคุณภาพของการออกเสียง (คุณตังโอ)
7. อย่าทิ้งความสนุก และความสุขเด็ดขาด (คุณอ๊อบ)
8. กล้าคิด กล้าทำ ผิด ต้องแก้ไข (คุณเล็ก)

เอาบล็อกพี่อ้อมที่เล็งไว้มาก่อนละกันค่ะ ใครไม่เก่งภาษาอังกฤษยกมือขึ้น

http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:393049

มานั่ง link นั่ง ก๊อป นั่งอ่านอีกที ก็ประทับใจในมิตรภาพ ที่พี่ๆ เพื่อนๆ สละเวลามาเขียนบล็อกแบ่งปัน มาตอบคำถามให้แบบไม่มีกั๊ก เสียดายที่อันนี้เป็นการไปก๊อปมาแปะ เลยไม่ได้เห็นแต่ละท่านมาตอบด้วย profile ตัวเอง หรือว่าหลายๆท่านมาอ่านและเขียนข้อความขอบคุณ ซึ้งๆ เพื่อส่งผ่านความรู้สึกให้ผู้ที่สละเวลามาตอบ หรือแม้แต่เป็นกำลังใจให้คนไปตั้งคำถาม

ถ้าจะให้ดี กลับไปอ่านตัวต้น link จะทำให้เห็นถึงความน่ารักของแต่ละท่าน เห็นถึงความปรารถนาดีของทุกคนที่อยากจะช่วยเหลือเกื้อกูลกันจริงๆค่ะ มันเป็นมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ ที่ภาหาได้ใน web แห่งนี้มาเกือบ 4 ปีแล้วค่ะ และมีความตั้งใจมาตลอด ที่อยากจะให้เกิดการช่วยเหลือกันในการเรียนรู้ และร่วมกันแบ่งปัน ตั้งแต่เมื่อครั้งตั้งกลุ่มขอนแก่น มาวันนี้ไม่ได้อยู่ขอนแก่น ก็ยังคิดถึงมิตรภาพดีๆ ของชาวขอนแก่นอยู่ และกำลังมีความหวังให้ชาวอุบลฯ เข้มแข็ง ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพื่อให้เกิดมิตรภาพดีๆขึ้นค่ะ นอกจากแบ่งปันในกลุ่มอุบลฯ แล้ว ถ้าชาวจังหวัดอื่นๆมาอ่าน เราก็ไม่หวงไว้แต่ประการใดค่ะ ยินดีแบ่งปัน

สุดท้าย ท้ายสุดที่พูดเสมอๆ คือ การมานั่งทำเรื่องราวแบบนี้ หวังเพียงเพื่อให้เพื่อนๆสมาชิก มีแรง มีกำลังใจ ในการฝึกฝนภาษาตัวเอง ฝึกภาษาลูกให้เป็นเด็กสองภาษา เป็นผู้ใหญ่สองภาษากันถ้วนหน้า

เหตุผลที่สำคัญที่อยากจะบอกเหลือเกิน คือ ภาเป็นคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ และเมื่อสอนลูกเป็นเด็กสองภาษาแล้ว ก็ทำให้รู้สึกว่า ใครๆก็ทำได้  ถึงวันนี้ เห็นลูกมีความสุข ไม่มีพรมแดนเรื่องภาษากั้น เติบโตไปพร้อมกันทั้ง 2 ภาษา และเมื่อตัวเองมาฝึกฝนภาษาจีน โดยเริ่มต้นจาก 0 ไม่มีพื้นฐานเลย เราก็สามารถพูดได้จากความรู้สึก และที่สำคัญมีความสุขแตกต่างจากการพูดภาษาอังกฤษแบบที่เราเรียนมามากมายจริงๆ ทุกวันนี้มีความสุขกับการเรียนรู้ภาษาในชีวิตประจำวันอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่เราเข้าใจแนวคิดในการเรียนรู้เท่านั้นเอง จึงอยากจะบอกกับทุกๆคนจริงๆว่า ใครก็ทำได้จริงๆนะ ขอเพียงแค่มีความมุ่งมั่น ค่อยๆก้าวเดินบนเส้นทางแห่งนี้ ซึ่งการมีเพื่อนจะทำให้การฝึกฝนและเรียนรู้ไม่เงียบเหงาจนเกินไป หากคุณไม่เลิกล้มและหยุดไปซะก่อน รับรองว่า เราจะมีเด็กสองภาษา และผู้ใหญ่สองภาษาเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

 

จึงเป็นที่มาของภา ที่มาทำกลุ่ม ที่มานั่งใช้เวลาแต่ละวัน พยายามสร้างให้เพื่อนๆมาช่วยกันเรียนรู้และแบ่งปัน ทุกอย่างเป็นความสุขและความตั้งใจจริงของภาค่ะ

add fav ไว้ก่อน เดี๋ยวมาตามอ่าน แหะๆ

ได้เลยค่า พี่เจง ว่าแต่ add favorite มันทำไงอ่ะคะ low tech อิอิ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service