เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

รวบรวมคำศัพท์ มาให้เป็นword สามารถปริ้นได้เลย คะ

 อันแรกจะเป็นของรอบก่อนที่เคยทำไว้แล้ว

 อันที่ 2 เป็นอันใหม่ ขออนุญาตตัดตอนเป็นบางส่วนะคะ ขอบคุณเจ้าของคำถามและคำตอบทุกๆๆท่านคะ

Views: 2715

Attachments:

Replies to This Discussion

ขอบคุณมากๆ ค่ะ

 

Wowwwww   ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ^ ^

ขอบคุณน่ะค่ะ ที่แบ่งปัน

การตอบคำถามของประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย is, am, are, do, does, have, has หรือ Isn't, Amn't, Aren't, Don't, Doesn't, Haven't, Hasn't ให้ตอบ Yes, ... หรือ No, ... เท่านั้น เช่น
 ประโยคคำถาม : Is he a good man? : เขาเป็นคนดีใช่ไหม?
ตอบ : Yes, he is. หรือ No, he is not (isn't). ใช่ หรือ ไม่ใช่
ประโยคคำถาม : Are you thai? : คุณเป็นคนไทยใช่ไหม?
ตอบ : Yes, I am. หรือ No, I am not (am not). ใช่ หรือ ไม่ใช่ *** (ถ้าถาม you ต้องตอบ I)
ประโยคคำถาม : Do they learn english every day? : พวกเขาเรียนภาษาอังกฤษทุกวันใช่ไหม?
ตอบ : Yes, they do. หรือ No, they do not (don't). ใช่ หรือ ไม่ใช่
ประโยคคำถาม : Does he eat rice? : เขาทานข้าวใช่ไหม (ถ้าใช้ Does เป็นกริยาช่วยแล้ว กริยาแท้ต้องเป็นกริยาช่อง 1 ไม่เติม s)
ตอบ : Yes, he does. หรือ No, he does not (doesn't). ใช่ หรือ ไม่ใช่
ประโยคคำถามปฏิเสธ : Doesn't he eat rice? : เขาไม่ได้ทานข้าวใช่ไหม (ถ้าใช้ Does เป็นกริยาช่วยแล้ว กริยาแท้ต้องเป็นกริยาช่อง 1 ไม่เติม s)
หรือเขียนได้ใหม่ว่า : Does he not eat rice?
ตอบ : Yes, he does หรือ No, he doesn't. ใช่ หรือ ไม่ใช่ (การตอบ ให้ตอบเหมือนกับ Yes, No question ที่ขึ้นต้นด้วย Does หรือ Do ธรรมดา) 

อย่าเดินไปตรงนั้น มีมดอยู่ เดี๋ยวมดจะกัดหนูนะค่ะ  Don't go over there.  You will get bitten by the ants.

แม่บอกนูแล้วว่าอย่าเดินมาตรงนี้ หนูโดนมดกัดจนได้  

I told you not the come over here. See you got bitten by the ants.

มดกัดหนูตรงใหนค่ะ  Show me where it hurt?

หนูคันรึเปล่า / คันครับ  Is it itchy here?

อย่าเกาค่ะ / เดี๋ยวแม่จะไปเอายามาทาให้นะ /รอแม่ตรงนี้ก่อนนะ

Don't scratch.  Wait here. I will got and get the medicine for you.

ยื่นเท้ามาแม่ทายาให้นะ / เดี๋ยวก็หายแล้วนะ

Give me your foot.  Let mommy put the cream/medicine on for you. You will get/be/feel better soon.

เท้าหนูที่โดนมดกับวมมากเลย / หนูปวดไหมครับ

.Oh!! look at it, it's swelling (badly). Are you sore? 

วันนี้คุณครูให้ลูกเล่นสนามหญ้าหรือเปล่า Did the teacher let you play in the yard ?                                                  -ทำการบ้านโดยเปิดหนังสือจากหลังไปหน้า please do your homework; start doing from the last page to the front.

อย่าเอานิ้วจิ้มตาแม่ค่ะ 1.Don't poke your finger into my eyes.

อย่ากอดคอแม่แน่น แม่หายใจไม่ออก 3.Don't hold my neck too tight. I can barely breath.

อย่าดึงผมแม่นะค่ะ แม่เจ็บ 2.Don't pull my hair . That's hurt.

ยกขาขึ้น แม่จะใส่กางเกงให้ / ยกขาข้างซ้าย / ยกขาข้างขวา

4.let me put on your pants. Lift your left/right leg up.

1.หนูไม่ชอบฟักทองใช่ไหมลูก กินน้อยจัง

 Don't you like pumpkin,Honey ?  You eat just a little. 

 2.แม่คิดว่าหนูไม่ชอบฟักทองแน่ๆ

You don't like pumpkin, do you ?   หรือ  I'm sure you don't like pumpkin.

1.นอนนะครับ ลืมตามาทำไม   .Time to sleep , Honey.  Close your eyes please.

 2.ลืมตามา กลัวแม่หายเหรอครับ.

Why do you keep your eyes open ? You think  Mommy will disappear?

 3.หนูอยากนอนคว่ำหรือนอนตะแคง  What would you like ?   lie on your stomach  or  lie on your back

 4.อยากให้แม่กอดไหมครับ   Do you need a hug ?

5.ฝันเรื่องอะไรบ้างครับ เล่าให้แม่ฟังหน่อย 

 What was your dream last night ?  Tell me please.

 คุยเล่น

1.นั่งอยู่ที่ไหนนานไม่ได้เลยนะ(คือลูกเราให้อุ้มเดินบ่อยๆ อะคะ แบบว่าไม่ชอบอยู่กับที่นานๆ ต้องพาอุ้มบ่อยๆ)  You like Mommy to walk around, don't you ?

2.อยากเดินเที่ยวหรือครับ  Do you want to go for a walk?

3.วันนี้เราจะทำอะไรกันดี

What do you want to do today?  What would you like to do today ?

4.เมื่อไหร่ยายจะมาซักทีน๊าา  I wish your Grandma 'd have come.

5.วันนี้พ่อหนูไม่อยู่นะลูก อยู่กับแม่นะครับ 

Your daddy isn’t (at) home today.   We are (at) home among us, honey.

 6.หนูอยู่เป็นเพื่อนแม่นะลูก แม่เหงา.  Be with me,honey.  I am lonely. (I feel lonely)

 7.หนูคันหรือครับ    Are you itchy?

 8.ลองหัดถือขวดนมดูนะครับ  Please hold your milk bottle yourself.

 9.ไหน ถือขวดนมได้หรือยังเอ่ย  Can you hold your milk bottle ?

 10.ของเล่นเสียงดังไปไหมครับ  Is it too loud ?

 11.แม่กลัวหนูหูไม่ดี ไม่อยากให้ฟังเสียงดังเกิน  Loud sounds can hurt your ears.

12.ไหน ขอหอมคนเก่งหน่อย  Give Mommy a kiss please.

Should you take a bath? Playing with water? Are you hungry? Drink some milk? Do  you want me to hold you up? Let's take a bath.  Where is mommy? Where is daddy?

1.หนูฉี่อีกแล้วเหรอ : You had a pee again ?

2.ลงนอนในเปลเดี๋ยวแม่ร้องเพลงกล่อมนอน

 Go and lie down in your cot/crib   , I will sing you a song.

3.หนูควรฉี่ใส่กระโถนนะ  :  Please take a pee in your potty.

4.หนูอยู่ตรงนั้นแหละ (แม่อยู่ในห้องครัวลูกอยู่ข้างนอกจะบอกว่าหนูเข้ามาไม่ได้)  หรือบางทีเราอยู่ข้างนอกลูกอยู่ข้างในแล้วบอกว่าหนูออกมาไม่ได้นะ 

: Stay right over there ,Honey.   Don’t come out to me.

5. อันนี้กิน/อมไม่ได้นะ เด็กเล็กชอบเอาของเข้าปาก

 Don't  eat it.   Don't put it in your mouth.

6.กระติกเก็บน้ำร้อนเล่นไม่ได้นะ  Don't play the thermos bottle.  It's hot.

7.ปลั๊กไฟ สายไฟ เล่นไม่ได้   Don't play  electric socket / cable.  It’s dangerous.

8.เมื่อเราออกไปข้างนอกต้องใส่รองเท้าก่อน.

We have to put on our shoes when we go outside.

9.ได้เวลากินนมนอน(ในเปล)แล้ว :  It's time to take a nap.

1.  แม่หนูขอเงินหน่อย จะไปซื้อขนม

Mommy, give me some money please. I want to buy some snack.

2.  แม่หนูขอไปร้านขายของได้หรือเปล่า May I go to the shop

3. แม่หนูทำไม่ได้ แม่ช่วยหน่อยสิ . I can't do it. Help me please.

4. แม่หนูอยากไปเที่ยว  . I want to go outside/ to travel./ to go to...

5. แม่หนูอยากดูการ์ตูน เปิดให้หนูดูหน่อยนะ                                                     I want to watch cartoon. Can you please turn on TV/ CD player for me?

6. แม่หนูอาบน้ำแล้วนะ  . I've already taken a bath

1. Could I have some money please, I'd like to buy some snack.

2. Can I go to the shop?

3 Mommy, I need your help. I can't do it.

4. I’d like to go out. Let's go out.

5 Mommy...May I watch cartoon? Please turn it on for me.

6. I’ve already had a shower.

1.หนูตื่นแล้วเหรอลูก

2.แม่ปลุกให้หนูตื่นหรือเปล่าลูก

 

3.ตื่นนอนได้แล้วจ้า

4.หนูตื่นแต่เช้าเลยวันนี้

5.ยังไม่มีใครตื่นเลย

1. Are you awake? ตื่นหรือยัง

2. Did I wake you up? แม่ทำให้หนูตื่นหรือเปล่า ปลุกไปแล้วเป็นอดีต

3. It's time to get up. ได้เวลาตื่นแล้ว

4. You got up early today. วันนี้หนูตื่นแต่เช้าเลย ตื่นไปแล้ว

5. Nobody is awake yet. ยังไม่มีใครตื่นเลย

1. เหม็นอะไรน๊า เหม็นจัง หนูเหม็นเหมือนแม่มั๊ย (เวลาลูกอึ)   :  What smell is this?  So stinky!!   It stinks, doesn't it?

2. แม่จะล้างก้นให้:  Let me clean your butt.  Let me wash your bottom.

3 นิ่งๆนะจ๊ะเดี๋ยวเสื้อเปียก   Stay still please, or your shirt will get wet.

4 เห็นมั๊ยเสื้อเปียกหมดเลย ถอดเสื้อ   งั้นอาบน้ำซะเลย!  See?  Your shirt is wet now.   Take off your shirt please.  Let's take a bath.

1 เราไปดูท้องฟ้ากันเถอะ (กลางคืนค่ะ):  Let’s go to watch the sky.

2 พระจันทร์สีสวย / พระจันร์เต็มดวง / พระจันทร์ครึ่งซีก:  What a beautiful moon / Full moon / Crescent

3 คืนนี้ไม่มีพระจันทร์เลย: No moon tonight.

4 โอ้โอ!  คืนนี้มีดาวเต็มท้องฟ้าเลย  ส่องแสงระยิบระยับสวยงามมาก  Wow ! Look!  Lots of stars tonight.  They are twinkling.  So beautiful.

5 มานับดาวกันเถอะ 1 2 3........  นับไม่ไหว...เยอะมากกกกกกกก  : Let's count the starts together.   1 2 3.......oh! I don't think we can count all of them, Too many!!!

3.ทำไมถึงมีแสงแดด เพราะพระอาทิตย์ส่องแสงตอนกลางวัน: Why do we have the sunlight?   Because the sun is shining during the day.

4.ตอนกลางคืนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ทำให้มืด ไม่มีแสงพระอาทิตย์

  : It's dark when the sun sets. No sunlight during the night.

2.เดินในร่ม(ร่มเงา) อย่าเดินกลางแดด มันร้อน เดี๋ยวไม่สบาย  : Walk in the shade please,  don't walk in the sun. It's hot.  You might get sick.

1.คุณย่าเฝ้าหน้าร้าน รอขายของให้ลูกค้า ไม่งั้นจะมีคนมาขโมยของ  :  Grandma has to be at the front taking care of the shop  and waiting for the customers, otherwise somebody will come to stole our things.

อย่าเกาค่ะ / เดี๋ยวแม่จะไปเอายามาทาให้นะ /รอแม่ตรงนี้ก่อนนะ

Don't scratch.  Wait here. I will go and get the medicine for you.

1.Those big tigers are swimming.   เสือตัวโตเหล่านั้นกำลังว่ายน้ำ (เล่นน้ำ)  อยู่

2. Can a lion swim.      สิงโตว่ายน้ำได้ไหม

3.รองเท้าคู่ใหญ่เกินไป/ เล็กเกินไปสำหรับหนู 3. These shoes are too big/small for you.

4.คู่นี้ไม่กระชับ (รองเท้าแตะแบบสวมสำหรับ1.2 ขวบ เดินยากหน่อย)ไปเปลี่ยนคู่ใหม่นะ

4. These ones (shoes) are too loose for you , try new ones.

5. อย่าแย่งมา นั้นของพี่ไม่ใช่ของหนู

5.  Don't snatch it.   It's not yours. It's your brother’s.

6. พอแล้วลูก กินแค่วันละเม็ดก็พอ ( หมายถึงวิตามินค่ะ)

6. That's enough.   Just take only one tablet a day.

7.วันนี้หนูทำไมตื่นสายจัง  7. Why you woke up so late today?

 Why did you wake up so late?

1.อย่างนั้นเหรอ  Really?

  1. 1.       น่าเสียดายจัง It's a pity. It's a pity.

Ex. It's a pity that you couldn't come to the party. It was fun.

3. แล้วยังไงต่อ   So..What's next?

4. ไม่น่าเลย I shouldn't have done that. พอไได้ไหมคะ

5. เปิดหนังสือข้ามหน้า จะพูดว่ายังไงดีคะ  I skipped this page. แม่เปิดข้ามหน้านี้ไป

6. เล่มนี้พึ่งอ่านไป จะอ่านเล่มนี้อีกแล้วเหรอ

We have just read/finished this book. Are you sure that you want me to read again? (เพิ่งอ่านจบไปเมื่อกี๊)

We read this book already. Do you want me to read it again? (เล่มนี้อ่านไปแล้ว อาจจะอ่านเมื่อวาน หรืออ่านเมื่อเช้า หรือเพิ่งอ่านจบไปเมื่อกิ๊)

1.ห้ามลุก  2.ห้ามลุกออกจากเก้าอี้นะ  Keep sitting on your seat

3.เล่นดีๆเดี๋ยวพัง be gentle with you toy, it may be broken

4.ถือดีๆเดี๋ยวแตก hold it tight, it may be broken

5.จับเบาๆเดี๋ยวแตก   touch it gently, it may be broken

6.ถอดเสื้อก่อนเดี๋ยวเสื้อเปียก   take off your shirt first, it will be wet

7.เดินดีๆเดี๋ยวหกล้ม   walk carefully, you might fall down

8.ใครเสียงดังเดี๋ยวจะโดนบิด  (แบบว่าเวลาไปห้าง ไม่อยากเป็นนางยักษ์ 555 ต้องขู่ไว้ก่อน)

If you make a noise, you will be pinched

9.เกาะราวดีๆเดี๋ยวตกบันได Hold the rail tight, you might fall down

10.อย่าวิ่งเดี๋ยวลื่น keep walking, the floor is slippery

11.เคี้ยวก่อนเดี๋ยวติดคอ Chew it carefully, it might be stuck in your throat

12.อย่าจับขอบประตูเดี๋ยวประตูหนีบมือ

Don’t touch the edge of the door; it might slum on your fingers

13.อย่าเล่นมีดเดี๋ยวมีดบาด

Don't play with the knife; it might cut your finger(s)

14.กินดีๆเดี๋ยวหก Eat carefully, it might be spilt over (the floor)

15.อย่าเล่นใกล้ผนังเดี๋ยวหัวโขก  (ตีลังกา)

Keep playing away from the wall honey; you might bumb your head with the wall

16.อย่าดูทีวีใกล้ เดี๋ยวสายตาสั้น

You shouldn't sit closer to the television; it isn't good for your eyes

17.อย่าเปิดตู้เย็นนาน เดี๋ยวเปลืองไฟ

If you open the refrigerator for a long time, it might consume a lot of electricity

18.อย่าใส่ซอสเยอะ มันเค็ม เดี๋ยวไตพังหรอก  you know, if you add too much seasoning sauce in your food, your food will be salty, furthermore, it isn't good for your kidney aswell.

19.อย่าจิ้มเยอะ เดี๋ยวเค็ม (มะม่วงจิ้มกะปิ) Don’t eat too much dip, it's salty

20.อย่าขว้างนะเดี๋ยวมันจะพัง don’t throw it honey, it may be broken

21.อย่าพูดโกหกสิ เดี๋ยวไม่มีคนเชื่อหนูหรอก

You shouldn't tell a lie, you know, nobody believe the liar's words

 22.ไม่กินผักเดี๋ยวตัวเล็กเหมือนหนูนิดหรอก  (นิทาน)

If you don't eat the vegetables, you will be a small boy like Noo Nid

 23.เลี้ยงแกะอีกแล้วนะ (แซวเค้าเวลาพูดไม่ตรงกับความจริง)  Shepherd boy?

 24.หนูอยากเป็นเด็กเลี้ยงแกะหรอ wanna be a shepherd boy?

 25.นับ1-3 ถ้าไม่มาเดี๋ยวหนูลำบากแน่ (แม่โหด 55t5)

I will count one to three, if you don't move I won't guarantee your secure 555 โหดไปมั้ยเนี๊ยะ

 26.แล้วแม่จะทำอะไรหนู   (ลูกกวนต่อ)

What are you going to do?

What you're gonna do?

 27.แม่จะตีหนู 2 ที I will hit you หรือ you will be spanked

 28.อดเล่นเกมส์ (คอม) 2 วัน

You will be banned from your computer games for 2 days

 29.อดขนม 1 วัน

You won't have any snacks for 1 day

 30.ตอนเย็นให้ไปวิ่งรอบสนาม 3 รอบ

And you have to run around the playing filed for 3 rounds

1.รถตักดินกำลังทำงาน 1. The backhoe is working. (Backhoe หรือ Excavator ก็ได้)

2 .รถตักดิน ตักดินใส่รถบรรทุก 2. The backhoe is digging the dirt and put it in the dump truck.

3.รถเทปูนผสมปูนหมุนๆ 3. The cement mixer truck is spinning.

4.รถกำลังเทปูน 4. The truck is dumping the cement

5.ไปหยิบหนังสือมา เดี๋ยวป๊าจะอ่านให้ฟัง  Bring the book to me. I will read for you.
6.ตรงนั้นน่ะ   over there
7.ดูนิ้วป๊าสิ ตรงนั้นน่ะ เห็นมั้ย Look at my finger. Over there. Have you seen?
อยู่บนชั้น
stay at up stair
ชั้น 1 First floor
นั่นแหละ yes.
ไม่ใช่เล่มนั้นนะ No. It is not
เล่มสีแดงน่ะ the red one.
ถัดไปอีก next one
นั่นแหละ ใช่เลย yes. It is

ไปหยิบหนังสือมา เดี๋ยวป๊าจะอ่านให้ฟัง  Go get the book. I'll read it for you.

ตรงนั้นน่ะ over there

ดูนิ้วป๊าสิ ตรงนั้นน่ะ เห็นมั้ย look at my finger. Over there. Do you see it?

อยู่บนชั้น it's on the shelf.

ชั้น 1 the first shelf.

ไม่ใช่ ๆ ชั้น 1 คือชั้นล่างสุด เข้าใจมั้ย  the first is the bottom shelf. Do you understand?

นั่นแหละ yes

ไม่ใช่เล่มนั้นนะ not that one.

เล่มสีแดงน่ะ the red one.

อ้าว เล่มนี้ก็สีแดงเหมือนกันนี่นา แต่ป๊าหมายถึง สีแดงอีกเล่มน่ะ ไม่ใช่เล่มนี้ oh, you're right. this one is red too. But I mean the other red one, not this one.

เล่มที่มีรูปสิงโตบนปกน่ะ เห็นมั้ย It has a lion on the cover, do you see it?

ซ้าย ๆ left, it's on the left side.

ถัดไปอีก next

ถัดไปอีกเล่ม next one.

นั่นแหละ ใช่เลย there, that's it. Great job!

ซ้ายสุด it is on the far left of the shelf.

หนูพูดอะไรคะ ร้องไห้แล้วพูดไม่เข้าใจเลย What did you say honey, I don't understand.

ขอโทษจริงๆค่ะ อันนี้ให้ไม่ได้จริงๆ หนูลองขออย่างอื่นที่แม่ให้ได้  I'm so sorry honey, I can't give this one to you. Can you request another thing?

เราไปเล่นอย่างอื่นกันนะคะ"  Let's play another games?

หนูพร้อมแล้วมาหาแม่ตรงนี้นะคะ แม่จะรออยู่ตรงนี้

I'll wait for you here, just come and see me here when you are ready.

 

1. ทราย 1 กอง  (ไม่ทราบสรรพนามของทราย อะไรค่ะ  กองหิน กองดิน กองขยะ กองอึสุนัข   ใช้สรรพนามเดียวกันมั๊ยค่ะ )  เช่น

1 A pile of sand.

1.1   เราไปเล่นที่กองทรายกันเถอะ 1.1 Shall we go to play at the sand pile?

 1.2  มีขยะอยู่หลายกอง 1.2 There are many piles of rubbish.

2.ทราบจับตัวกันเป็นก้อนแข็งค่ะ (ลูกเห็นก้อนทรายที่แข็งจับตัวก้อนค่ะ ถามว่า what’s this? Whose's poo?)

2.1 ก้อนดิน  เรียกว่าอะไรค่ะ หรือแค่  soil ก็พอค่ะ 2.1 ก้อนดิน = Lump / clod

Whose poo (is that)?

No, it is not a poo. It is just a lump of soil.

แล้ว lump of poo, dog's poo lump. นี่เค๊าใช้กันมั้ยคะ

lump of soil is the combine / composition / conglomoration of dry and hard soil.

1.  หนูถือลูกปัดสีแดงนี่ไว้นะค่ะ 1. Hold this red bead, honey.

2. หนูหยิบลูกปัดที่มีสีแดงเหมือนลูกปัดในมือของหนูขึ้นมา 1 อันค่ะ

2. Can you pick up another red bead as same color as the one in your hand?

3. คิดดี ๆ ค่ะ 3. Are you sure?  Think carefully.

4. มองดูดี ๆ ค่ะ 4. Have a closer look.

5. ถูกต้องค่ะ 5. That’s right.  Well done. Good job.                                                                                                                     6. ไม่ถูกค่ะ หยิบใหม่นะค่ะ 6. No, Honey.  You picked the wrong color.  Try again.

Option

2. Can you pick up another same red color as your one?

4. Look closer!

2. หนูหยิบลูกปัดที่มีสีแดงเหมือนลูกปัดในมือของหนูขึ้นมา 1 อันค่ะ

Can you pick up another red bead that look just the same as the one in your hand?

 


I'll jump on it right a way แปลว่าอะไร   เป็นประโยคที่ดีมากเพราะเราจะได้เรียนรู้สำนวนสองสำนวนพอดีครับ to jump on (something) หมายถึงเริ่มทำอะไรบางอย่างด้วยความกระตือรือร้นครับ ใช้ to jump onto ก็ได้ครับ เช่น

Thanks for your email. I'll jump onto your request right away. (ขอบคุณสำหรับ email ที่คุณส่งมา ผมจะเริ่มทำสิ่งที่คุณต้องการเดี๋ยวนี้เลย) ในทำนองเดียวกันเราใช้ to get onto (something) ซึ่งความหมายเหมือนเดิม ส่วน right away หมายถึง เดี๋ยวนี้ Banana! Clean your room right away or you can't go and play with your friends! (น้องกล้วย! ทำความสะอาดห้องเดี๋ยวนี้ ครับไม่งั้นไม่ให้ไปเล่นกับเพื่อน)  ในทำนองเดียวกัน ใช้ I'm on it. เวลางานไม่เสร็จ แต่เจ้านายมาถามเรา เราก็อยากให้เขายังมีความหวังว่า คุณเป็นพนักงานที่ดีเยี่ยมอย่างที่คุณโออวดตอนสัมภาษณ์งาน  I'm on it. หรือ I'm onto it. หมายถึง กำลังทำอยู่ คงให้ความหมายเป็นนัยว่า ควบคุมงานอย่างดีแต่ยังไม่เสร็จ แต่ไม่ต้องกังวลเพราะมันจะเสร็จแน่ เช่น  Where are the sales figures? (ตัวเลขการขายอยู่ที่ไหน)  

I'm on it. Give me another hour. (กำลังทำอยู่ ให้ผมอีกหนึ่งชั่วโมงนะครับ)                                                                                ในทำนองเดียวกัน to get onto something หมายถึง เริ่มทำอะไรบางอย่าง เช่น                                                                                   I haven't started the report yet. I'll get onto it first thing tomorrow morning.
(ยังไม่ได้เริ่มเขียนรายงาน ผมจะเริ่มต้นวันพรุ่งนี้เช้าเป็นงานแรกของผม)

สะดุด tip /trip over?

อย่าข้ามไป ข้ามมา frontseat กับ backseat

1. ไปหยิบหนังสือมาให้แม่สิ   1. Go and get the book for me(Mommy).

 2. ไปดูนกกัน (เวลาจะพาไปเดินเล่นหน้าบ้าน)  2. Let's go to see the bird.

3. ฟังเพลงกันไหม 3. Would you like to listen to the song?

4. ลูกไม่ฟังเพลง แม่ปิดแล้วนะ 4. If you don't want to listen it,I will turn off it.

 5. อย่าปีน ระวังล้ม 5. Don't climb up. You might fall down.

 6. แปรงฟันกัน 6. Let's brush your teeth.

4. ลูกไม่ฟังเพลง แม่ปิดแล้วนะ 4. If you don't want to listen to it,I will turn off it.

 7. ปิดฝา / เปิดฝา (ขวดนม)  Close the cap/open the cap

 8. ถือขวดนม  Hold the bottle. 

 9. ใส่เสื้อ / ถอดกางเกง9. Put on your shirt. Take off your shorts.

10. ถอดเสื้อ / ใส่กางเกง 10. Take off your shirt. Put on your shorts.

 11. แม่ถูสบู่ให้ 11. I am soaping for you. (แม่เรียกแทนตัวเองว่า I)

 12. แม่สระผมให้ 12. I am washing your hair.

 13. บัตรคำศัพท์ รูปมด จะถามลูกว่านี่เรียกว่าอะไร 13. What is this?

 14. บัตรคำศัพท์ รูปนก อยู่ไหนน๊า

 15. ปาป๊ามาแล้ว 15. Papa is comimg.

 16. เรียกแม่สิ       Please call me "Mommy"

 17. อย่าไปนะ เดี่ยวจิ้งจกมากัด Don't go there, the lizard will bite you.

 18. ไปนอนดีกว่า 18. Go to sleep. Let's go to sleep/to bed.

19. ปาป๊าชงนมอยู่ Daddy get you a milk.

5. อย่าปีน ระวังล้ม Don't climb up you might fall down.

10. ถอดเสื้อ / ใส่กางเกง  take off your shirt / put on your pant. 

14. บัตรคำศัพท์ รูปนก อยู่ไหนน๊า  where is the bird? 

15. ปาป๊ามาแล้ว Daddy's coming.

1 อย่าใช้ขาเหยียบ1. Don't step on  (something)  /  Don't put your feet on  (something) .

2 วางเบาๆหน่อย เดี๋ยวของพังหมด  2. Put it down gently or you will brake it / Otherwise it will be broken.

3 ไม่ให้เข้าหรอก (เล่น เวลาไม่ให้เค้าเข้าห้อง) 3  I won't let you in.

4 ถือไหวเหรอ มันหนักนะ4  It's quite heavy, Are you  OK? Need any help?/Do you need a hand?

5 ระวังสะดุด เดินดีๆ 5 Be careful.  Walk carefully.

6 เดินไปปิดไฟก่อน แล้วเราค่อยไป 6 Please turn off the light first, then we can go.

7 อย่าแกะนะ (สติกเกอร์) 7 Don't take the sticker out.

8 เล่นป้อนข้าวให้ต๊กตาอยู่เหรอ 8 Are you feeding the doll ? 

9 ไปเก็บมาเลย (เวลาเค้าโยนของทิ้ง) 9 Go  Get it back.

10 ลูกบอลกลิ้ง 10 The ball rolls / The ball is rolling.

11 ดมซิ เหม็นเปล่า 11 Please smell it./Can you smell it?    Is it stinky?

12 ใครจะไปกับหนู  ไม่มีซะหน่อย (เล่นกันค่ะ)

12 Nobody wants to go with you.

 1. หนูรู้ได้อย่างไรว่า ทำแบบนี้   how do you know that you're supposed to do it this way?

2. ก่อนจะตากผ้าต้องกลับเอาด้านในออกก่อน แดดจะได้ไม่ทำให้สีผ้าซีด

   We have to flip/turn all clothes/clothing inside out before hanging them to dry. This will prevent colored clothes/clothing from fading.

3. เอาไม้แขวนเสื้อใส่เข้าไปที่คอเสื้อแบบนี้ put the hanger in through the collar.

4. ใช้ที่หนีบผ้าอีกที เพื่อความชัวร์ เผื่อลมพัดแรงจะได้ไม่หล่นมา เสียเวลาซักใหม่   Let make sure that our clothes will stay on the line by using clothespins so they won't fall to the ground and we won't have to clean them again.

5.น้ำยาปรับผ้านุ่มช่วยให้ผ้ามีกลิ่นหอม ไม่เหม็นอับ

   Fabric softener will help our clothes smell fresh and won't smell.

   Fabric softener will help our clothes smell fresh and won't be musty.

5. ก่อนรีดผ้าเราต้องกลับผ้าก่อน เพราะว่ากลับเอาด้านในออกเมื่อตอนเราตากผ้า

   Before we iron our clothes, we have to turn/flip them back because we turned them inside out when we hung them to dry.

6. พรมน้ำให้ทั่ว เวลารีดจะได้ง่าย และก็ประหยัดไฟด้วย

    Spraying water evenly will help with the ironing and will safe power as well.

7. จะบอกลูกว่ายังไง ในการฉีดพรมผ้าด้วยขวดสเปรย์ฉีดน้ำ กด ฉีด หรือว่าอะไร

    squeeze the handle of the spray bottle.

8. เอามือซ้ายจับที่ตัวขวดไว้ ส่วนมือขวาใช้นิ้ว โป้ง ชี้ กลาง กดแบบนี้

   Use your left hand to hold the bottle and use your right thumb and right index finger to squeeze the handle. 

9. น้ำยาอัดกลีบ ช่วยให้รีดง่ายขึ้น แล้วก็หอมด้วย

     Starch solution/spray will make ironing easier and clothes will have good fragrance as well. 

10. จะอธิบายยังไงว่าเกี่ยวกับการจัดผ้า แล้วก็รีด

     Stretch and spread the clothing out before we iron them. 

11.ตัวนี้รีดเรียบร้อยแล้ว ระวังเดี๋ยวยับ

    Be careful with this one. It has been ironed.

12ลูกชอบไล่คนค่ะ จะบอกว่ายังไงดีคะว่าอย่าพูดคำนั้น เวลาคนอื่นได้ยินเค้าจะเสียใจ

       ออกไปเลย นี่ภาษาอังกฤษคืออะไรคะ  Don't be impolite/rude. You can hurt people feeling by saying that.

1. อันไหนก็ได้ ช่วยแปลให้หน่อยคะ 1. อันไหนก็ได้ anyone. อย่างใดอย่างหนึ่ง You can have only one. This one or that one.

เวลาที่เราซื้อของมา 2 อัน หรือเวลาที่ลูกเลือกของแล้วเราจะบอกว่า อันไหนก็ได้ หรือ อย่างใดอย่างหนึ่ง

2.เอา (ของเล่น) ได้อันเดียว 2 you can have only one toy.

3.เป็นพี่ต้องรักและดูแลน้องชาย 3. You are a big brother now. You should love and take good care of your little brother.

4.เป็นน้องต้องรักเคารพและเชื่อฟังพี่ชาย 4. You are a little brother. You should love, respect and obey your brother.

5.พี่น้องกันต้องรักกัน 5. You are brother and sister. You should love and take care of each other.

6.อย่าทะเลาะกัน อย่าแกล้งกัน 6. You should not tease or pick on each other.

จัดของในแนวขวาง ในแนวตั้ง  set them in line // stand them up
แถวขวาง Horzontal     //   แถวตั้ง vertical
หยิบสีละ 1 แท่ง   pick the pen one it a time
ใส่ดินสอในกล่องไม่จุ กล่องเล็กไป     This pencil case is too small.
วงแดงบนพื้นขาว สีพื้น  red spot on white background
การใช้ dead เป็นคำนาม   The dog is dead.

die เป็นกริยา     Tomorrow never dies.   
อาคารผู้โดยสาร ในairport
สะดุด trip over   // tip=คว่ำลง,เท,เอียง      tip the water out of the pail. 
อย่าข้ามไป ข้ามมา frontseat กับ backseat    -----> Stop crossing around.

ตื่นนอนยัง  Have u waken up?

ตื่นนานหรือยัง  How long have u waken up?

นอนต่อมั้ย  Do u want to keep sleeping?หรือ Keep sleeping?เฉยๆ

ทำความสะอาดเหงือก ลิ้น  Let's clean ur gum and tongue.

จะอยู่กับแม่หรือไปกับยาย  Do u want to stay home with mom or visit grandmom?

จะให้ใครไปส่งบ้านยาย/รร.  Who do u want to take u to.......?

ตอนเลิกงานพ่อจะไปรับ  Dad"ll take u home after working/after finishing his work.

หนูไปไหนมา  Where have u been?

ไปกับใคร  Who did u go with?มั้งคะ

สนุกมั้ย  Did u have fun? ไปหรือยัง  Have u gone ?

อย่ากินน้ำเย็นกำลังไม่สบาย  Dont drink cool water; u r sick now.

อย่าร้องไห้น้ำมูกเยอะหายใจไม่ออก  Stop crying honey,u will get runny nose and hard to breath. มั้งคะ

u r gonna see docter and ur sister gonna take a jab.

หนูยิ้มจนเห็นเหงือก  i can see ur tongue when u smile.

ผ้าอ้อมที่เป็นผ้าผืนๆเรียก nappy ค่ะ ได้แค่นี้แหละค่ะ

ตื่นนอนหรือยัง  Did you wake up, honey?
Have you woken up yet?

Are you awake, honey?

ตื่นนานหรือยัง   How long have you been awake?                                                                                                       นอนต่อไหม Do you want to go back to sleep?

Do you want to continue your sleep/nap?

 Take a bath
-
เช็ดตัว  Dry yourself

-ทำความสะอาดเหงือก/ลิ้น
Clean your gum and tongue.

-แม่ต้องกินข้าว กินนม กินอาหารที่มีประโยชน์ จะได้มีนมให้หนูกิน
I have to eat healthy food and drink a lot of milk to produce my breast-milk for you.

-มากินนมแม่กันดีกว่า
Let's have my (breast) milk.

-หนูหิวนมหรือเปล่า
Are you hungry? Do you want to have some milk?

-หนูกำลังกินนมแม่อยู่  You are drinking my milk.

-แม่จะให้หนูกินนมนะ  Let me nurse you.
I will give you my (breast) milk?
หนูจะอยู่กับแม่หรือไปหายาย  Do you want to stay with me or go to see your grandma?

-จะให้ใครไปส่ง บ้านยาย/โรงเรียน  Whom do you want to send you to school/grandma's house?

-เราจะไปอย่างไรดี (ไปโดยรถยนต์ / มอเตอร์ไซด์ /เดินไป)
How do we go there?
How should we go there?

(by car/ by motorcycle/ on foot)

 -ตอนเลิกงานพ่อจะไปรับ  I will pick you up after work.

-หนูไปไหนมา  Where did you go?  Where have you been?

หนูไป....กับใคร  Who did you go with?

-หนูไป....หรือยัง / สนุกไหม
Did you go to........? Did you have fun?
Have you been to ........? Did you have fun?

 สุขภาพ
-
หนูไม่สบายมีน้ำมูกในจมูก / มีเสมหะในคอ ก็เลยทำให้หายใจไม่สะดวก ต้องใช้ syling ball ดูดออก
You are not well. You have got runny nose and you also got phlegm in your throat

-อย่ากินน้ำเย็นเยอะ กำลังไม่สบายอยู่   Do not drink cold water. You are sick. (If you drink cold water, you will never recover from your sickness)

เวลาไม่สบายห้ามไม่ให้ดื่มน้ำเย็นเลยดีกว่าค่ะ
-
อย่าร้องไห้ ยิ่งร้องไห้น้ำมูกยิ่งเยอะ ยิ่งทำให้หายใจไม่ออก  Don't cry honey. If you cry a lot, there will be a lot of mucus/snot in your nose. And it makes you breathe difficultly.
-
หนูไปตรวจร่างกายตามคุณหมอนัด น้องไปฉีดวัคซีน
You go there/to the hospital to get medical check-up, while your sister/brother get vaccinated.

-หนูยิ้มจนเห็นเหงือกเลย
I can see your gum while you smile.

-ร้องไห้น้ำตา น้ำมูกไหลเลย
When you cry, you have some tears and runny nose.

-ร้องไห้เสียงดัง / ตะโกนเสียงดังจะเจ็บคอนะ
If you cry loudly/shout loudly, you will get sore throat.

-หนูชอบเป่าปาก(เป่าน้ำลายจนเป็นฟอง) I like to blow saliva bubble.  = เล่นเป่าน้ำลายเป็นฟอง .....แบบเดียวกับที่น้องทำหรือเปล่าคะ ไม่แน่ใจ   ผ้าอ้อม diaper/nappy

เสื้อแขนยาวของเด็กเล็กๆ long sleeve baby shirt/t-shirt

กางเกงขายาวของเด็กเล็กๆ baby pants

ปานดำ ปานแดง  birthmark

กางเกงผ้าอ้อม cloth diaper

-หนูยิ้มจนเห็นเหงือกเลย  Look at you, smiling form ear to ear.

1. วันนี้เราจะปลูกต้นผักชีกันประหยัดแล้วก็ปลอดสารพิษด้วย

We are going to grow parsley today. Growing parsley by ourselves help us to economize. And we also get organic parsley to eat.

2.นี่เมล็ดผักชีที่เราจะปลูกกัน เราซื้อมาจากตลาดนัดเมื่อกันก่อนจำได้มั๊ย
This is the parsley seeds. We bought them from the market fair yesterday. Can you remember?

3.ขั้นแรกเราต้องเพาะเมล็ดกันก่อน

First, we have to try to make all seeds germinate.

4.เริ่มจากการเตรียมดินใส่ในกระถาง

We start with putting the soil in the pot.

5. ดินปลูกจึงควรมีลักษณะร่วน โปร่ง อุ้มน้ำ หรือเก็บความชื้นได้ดี สามารถระบายน้ำ และถ่ายเทอากาศได้ดี เพราะว่า

    ต้นไม้ไม่สามารถหยังรากลงดินได้ เพราะมันอยู่ในพื้นที่จำกัด

-----ขออนุญาตเปลี่ยนเพราะว่ารู้สึกว่าประโยคไม่สัมพันธ์กันค่ะ  ดินโปร่งกับพื้นที่จำกัด มันยากไปหน่อยค่ะ คิดไม่ออก

We should plant them in loosen soil which can keep some moist.  The root of the plant cannot grow well if we use clay or sand.

6. เตรียมดินเรียบร้อยร้อย ขุดหลุมเล็กๆ ใส่เมล็ดลงไป ห้าเมล็ดก็พอต่อหลุม ไม่ต้องมากเพราะว่ากระถามของเราไม่ใหญ่ใหญ่ เอาดินกลบ รด น้ำ นิดหน่อย อย่ามากเดี๋ยวเมล็ดเน่าตาย

After prepare the soil, make small holes and drop a few/five seeds in each one. Do not make too many holes or put too many seeds in the pot because our pot is very small. Then cover with thin layer of soil and water them with small amount of water . Do not put too much water, the seeds might be spoiled.

7.เดี๋ยวพอเมล็ดงอกออกมาเราค่อยมาจับแยกกระถางกันอีกที After they grow for a few day, we can separate them into other pots.

8.หนึ่งกระถางต่อหนึ่งต้นไม้ ต้นไม้จะได้อึดอัก อยู่กันอย่างสบายไม่ต้องแย่งแสงแดด น้ำ กัน

Please put only one plant in one (tree) pot. The plant will grow perfectly well because it doesn't have to fight for resources, such as sunlight and water.

 9. นี่คือสมุดบันทึก เราจะลงบันทึกกันเพื่อดูการเจริญเติบโตของต้นไม้กัน แล้วก็ถ่ายรูปไว้ด้วยเนอะ

This is the diary book. We will take pictures and record plant's growth.

21 Mar 2011, the first day.

                   Mommy and Lanla start planting coriander/parsley.

.10. ถ้าโลกของเราไม่มีต้นไม้จะเป็นอย่างไร คงร้อนน่าดู อากาศคงผันแปรกันน่าดู

      งั้นเราควรจะทำยังไงกันดี ใช่เราต้องช่วยกันปลูกต้นไม้กันเยอะๆ

If there is no tree on earth, there will be too hot. The weather might be very weird. What should we do? yes, we should plant/grow the plants/trees.

11. ต้นไม้ช่วยฟอกอากาศ ฟอกจากก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ให้เป็นออกซิเจนให้บริสุทธิ์ให้เราหายใจ

Trees helps turning carbon dioxide into oxygen that we breathe.

12. ไปรดน้ำต้นไม้กัน ดูสิว่าวันนี้โตขึ้นแค่ไหนแล้ว รดวันละสองครั้ง ไม่ควรรดตอนแดดจัด และรดน้ำแต่พอชุ่มอย่าให้โชก

Let's water the plants. Let's see how much they grow. We should water the plants twice a day. We shouldn't water the plant when there is very bright sunlight. We shouldn't water them too much.

1.เรามานับกันดีกว่าว่าหนูมีปากกากี่แท่ง

Let's count your pen.
Let's see. How many pens do you have?

2.แม่วางแก้วน้ำหนูไว้ทางขวา จับช้อนด้วยมือขวา จับส้อมด้วยมือซ้าย

I put your cup on your right (side).  Please use your right hand to hold the spoon and use your left hand to hold the fork.

3.มองที่เครื่องเล่นดีวีดีสิลูกว่าตอนนี้เลขอะไร

What is the number on the DVD LCD screen?

What number is on the DVD screen?

4.ตุ๊กตาหมีขนาดเล็กสุด ขนาดกลาง ขนาดใหญ่

-There are three sizes of teddy bears. Small size, medium size and big size.

ปกติ ถ้ามีเทียบกันจะพูดประมาณนี้ค่ะ

-This teddy (bear) is the smallest. This one is bigger and that one is biggest.

5.รองเท้าแม่ใหญ่กว่ารองเท้าหนู แต่รองเท้าเท้าคุณพ่อใหญ่กว่าของคุณแม่อีก

My shoes are bigger than your shoes. However, Daddy's shoes are bigger than mine.

6.หนังสือเล่มนี้หนากว่าเล่มนี้ หนังสือเล่มนี้บางกว่าเล่มนี้

This book is thicker than that book. This book is thinner than that book/one.

7.หนังสือเล่มนี้หนักกว่าเล่มนี้ หนังสือเล่มนี้เบากว่าเล่มนี้

This book is bigger than that book. This book is lighter than that book/one.

8.เรามาจัดหมวดหมู่สิ่งของกันดีกว่า เครื่องเขียน เครื่องดนตรี ของเล่นครัว เวลาเล่นจะได้สะดวก

Let's put things into these three groups. stationary,instrument and kitchenware. It will be easy to find when you want to use it.

9.อาบน้ำเสร็จแล้วมากินข้าวกันนะ

Let's have meal/breakfast/lunch/dinner after taking a shower.

10.อีกครึ่งชั่วโมงคุณพ่อจะมารับ มองดูที่นาฬิกาตอนนี้ สิบโมงครึ่ง เมื่อเข็มยาวชี้ไปที่เลข 12 แล้วเข็มสั้นชี้ไปที่ เลข11

Daddy will pick you up in half an hour. Look at the clock, honey.  The little hand is pointing to number 12 and the big hand is pointing to number 11.

11.นางฟ้าบอกให้ซิลเดอเรลล่ากลับจากงานเลี้ยงก่อนเวลากี่โมงนะ

Can you tell me what time that the fairy told Cinderella to leave the ball?

12.ตอนกลางวันสว่างเพราะว่ามีแสงอาทิตย์ พอพระอาทิตย์ตกไปก็มืดไปหมดเรียกว่ากลางคืน พระจันทร์ก็ขึ้นมาแทนพระอาทิตย์

There is sunlight in daytime because the earth faces the sun. At night, the earth faces away from the sun, then there is no light. And we can see the moon instead of the sun.

13.ตอนกลางคืนมืดคนเราเข้านอน พอกลางวันสว่างเราก็ตื่นนอนไปโรงเรียน

We sleep at night time when it's dark. However, we wake up and go to school at daytime when the sun is shine.

14.เดือนเมษายน วันเกิดของหนูไง

You were born on April.

15.ดูราคาสิ เท่าไหร่ แพงจัง ชิ้นนี้ถูกกว่า ชิ้นนี้แพงกว่าแต่ปริมาณมากกว่า ซื้อชิ้นนี้ดีกว่าคุ้มกว่า

Let's see the price. Oh...it's too expensive. This one is cheaper. The other one is more expensive but it contains larger quantity. I think this one is worthwhile.

1. อย่าอยู่ใกล้ลำโพง เสียงมันดังมาก1. It is too close to the speaker. The volume is too loud.

2. อันนี้เรียกว่าเครื่องเสียง เราไว้ใช้ปรับเพิ่มปรับลดเสียง                                                                                                                  2. This is the stereo system. It is used to adjust the volume.

3. เราเอาซีดีใส่เข้าไปในเครื่องเล่นก่อน วางดีๆ ให้อยู่ในถาดของมัน ไม่งั้นมันจะไม่อ่านแผ่น

3. Put a CD in the player. Put it down nicely in the slot/tray. Otherwise, it won't play.

4. แม่ต้องใส่หมวกกันน๊อคตอนขี่รถมอร์เตอร์ไซด์ ไม่งั้นยามจะปรับเงินแม่

4. I have to wear a helmet so I won't get fined.

5.ตอนนี้ยังไม่ไปทำงาน สายๆถึงไปทำงาน 5. I will go to work in a little while.

6. วันนี้วันทำงาน พรุ่งนี้วันหยุด แม่อยู่บ้าน แต่คุณพ่อต้องไปทำงาน

6. Today is workday. I don't have to work tomorrow though. I will be at home but daddy will be working.

ใบไม้ร่วงจากต้นไม้  Can u see the leaves  falling down from that tree?

กวาดใบไม้  Let's clean up the garden and drop them into this basket.

เด็ดดอกไม้  Pick some flowers for dad.

รดน้ำต้นไม้ Dad is watering the plants.

พรวนดิน ใส่ปุ๋ย  I' m gonna loosen the soil and fertilize the plants to make them grow well.

เช็ดหน้า เช็ดตัว สระผม จาม เล็บฉีก ถ้ายุงกัดต้องล้างน้ำแล้วทายาwipe your face

Dry yourself   ;   wash your hair; my nail was cracked.

We should put some cream after the mosquito bit.

เช็ดหน้า Wipe your face     เช็ดตัว Dry yourself.    สระผม Wash your hair.

จาม sneeze    เล็บฉีก cracked nail / broken nail

ถ้ายุงกัดต้องล้างน้ำแล้วทายา  When you get some mosquito bites, you should wash them with clean water and put some cream on.

สระผม get your hair clean // shampoo your hair

1.เด็กๆต้องนอนกลางวัน สมองจะได้พัฒนา / โต1.  The kids need to take a nap during the day, so their brains get developed.

2.ต้องนอนกลางวันจะได้ฉลาด 2.  Taking a nap daily can make you clever.

3.ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งรู้มาก / ยิ่งฉลาด 3.   More reading makes you more intelligent

2 Taking nap could make you smarter.

3 The more you read, the more you know.

1.เอาขยะไปทิ้ง 1. Take out the garbage.

2.เก็บที่ (เวลาบอกลูกให้เอาสิ่งของที่มาจากไหนไปเก็บที่นั้น) 2. Put it back.

3.ขึ้นเตียงนอน3. Get into bed.

4.ไปอาบน้ำกัน 4. Let's take a shower, baby.

5.ลงไปข้างล่างกัน 5. Lets go downstairs, baby.

1 อย่าใช้ขาเหยียบ1. Don't step on (something) / don’t put your feet on (something).

2 วางเบาๆหน่อย เดี๋ยวของพังหมด2. Put it down gently or you will break it / otherwise it will be broken.

3 ไม่ให้เข้าหรอก (เล่น เวลาไม่ให้เค้าเข้าห้อง) 3 I won't let you in.

4 ถือไหวเหรอ มันหนักนะ4 it’s quite heavy, Are you OK? Need any help? /Do you need a hand?

5 ระวังสะดุด เดินดีๆ5 Be careful.  Walk carefully.

6 เดินไปปิดไฟก่อน แล้วเราค่อยไป 6 Please turn off the light first, then we can go.

7 อย่าแกะนะ (สติกเกอร์) 7 don’t take the sticker out.

8 เล่นป้อนข้าวให้ต๊กตาอยู่เหรอ 8 Are you feeding the doll? 

9 ไปเก็บมาเลย (เวลาเค้าโยนของทิ้ง) 9 Go get it back.

10 ลูกบอลกลิ้ง10 the ball rolls / the ball is rolling.

11 ดมซิ เหม็นเปล่า11 please smell it. /Can you smell it?    Is it stinky?

12 ใครจะไปกับหนู ไม่มีซะหน่อย (เล่นกันค่ะ) 12 nobody wants to go with you.

 

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service