เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

รู้สึกท้อ เพราะลูกได้คะแนนภาษาอังกฤษต่ำมาก

       ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งซึ่งพยายามจะสร้างเด็กสองภาษา  แต่ทำได้ไม่ค่อยเต็มที่เท่าไหร่   ก็จะพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษเป็นบางประโยคที่ง่ายๆในชีวิตประจำวัน  บอกคำศัพท์ลูกในบ้านทุกวัน  แต่ลูกไม่ค่อยตอบกลับสักเท่าไหร่ แต่บางประโยคที่เราพูดบ่อยๆ เขาก็จะสามารถตอบได้เป็นภาษาไทย  ถ้าตอบภาษาอังกฤษสั้นๆได้เขาก็จะตอบ  ความถี่อาจจะไม่ค่อยบ่อย  แต่ก็ไม่ได้คาดหวังมากว่าลูกจะพูดภาษาอังกฤษได้  แต่อย่างน้อยมีความเชื่อว่า  เขาน่าจะได้ศัพท์มากกว่าที่เราไม่พูด  ดิฉันใช้เวลาทำแบบนี้เป็นเวลาประมาณ 2 ปี  ตอนนี้ลูกคนโตอยู่ ป.3 คนเล็กอยู่ ป.1 ส่วนมากจะพูดกับคนโตเสียส่วนใหญ่  บางคร้งก็ดูเหมือนว่าเขาไม่สนใจ  แต่บางครั้งก็สนใจ  แต่ที่น่าเสียใจและท้อใจมากคือ  ผลการการสอบภาษาอังกฤษ ได้คะแนนต่ำมาก่ๆ บางวิชาตก ( ที่รร.ลูกดิฉันเรียนหลักสูตร EISลืมชื่อเต็มค่ะไม่แน่ใจ แต่เป็นเพิ่มชั่วโมงเรียน E กับครูต่างชาติ จะมีภาษาอังกฤษ  และอังกฤษเสริมอีก 3 คือ math

Scienceและ English เสริม ) ดิฉันเสียใจมาก ทั้งๆที่เราก็ฝึกศัพท์ลูกเกือบทุกวัน  และบางวันก็ให้คัดคำศัพท์  มันน่าจะได้บ้าง หรือไม่ก็ไม่ก็ไม่ควรตก  รู้สึกเสียความมั่นใจ ท้อมากๆ ไม่รู้ทำไงดี ก็เลยกำลังให้ลูกเรียนพิเศษภาษาE ที่รร.กวดวิชาแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ทั้งๆที่รู้สึกต่อต้านการเรียนแบบท่องจำ แต่ก็ทำไงได้ ลูกเราต้องสอบ ต้องหาวิธีให้ทันลูกคนอื่นที่หลักสูตรให้มา วิชาอื่นๆได้คะแนนน้อบเหมือนกัน แต่ไม่เสียใจเท่าวิชานี้เลย  ป.1 ป.2 ลูกไม่เคยได้ต่ำอย่างนี้มาก่อน ได้ระดับกลางถึงดี  เครียดมากเลยค่ะ ขอคำแนะนำหน่อยได้ไหมคะ มีลูกใครเป็นแบบนี้ไหมคะ

Views: 1217

Reply to This

Replies to This Discussion

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ แต่อย่าพึ่งท้อแท้ไปนะค่ะ ความถนัดของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันต้องดูว่าลูกเรามีความสุขกับการเรียนหรือป่าวด้วยค่ะ ต้องถามต้องพูดคุยกับเค้าด้วยค่ะ สู้ๆนะค่ะ 

มาให้กำลังใจคุณแม่ค่ะ ท้อได้แต่อย่าถอยค่ะ

ลองทบทวนดูว่าเราทำอะไรผิดพลาดหรือเปล่า  ปกติถ้าเด็กได้ภาษาอังกฤษจากที่บ้าน ที่โรงเรียนจะไม่มีปัญหา  คุณแม่ลองอ่านกระทู้นี้ที่เราเขียนตอบไว้ อันนี้ประสบการณ์จากลูกชาย จากวันที่ภาษาอังกฤษย่ำแย่ ถึงวันนี้ลูกชายพัฒนาภาษาอังกฤษเร็วมาก ปีหน้าจะไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ภาษาตอนนี้เรียกว่าหายห่วงแล้วค่ะ ต้องไปเตรียมตัวอย่างอื่น

 

http://go2pasa.ning.com/forum/topics/2456660:Topic:1036194?commentI...

 

ตอนนี้น้องแค่ ป. 1 กะ ป.3 เอง คุณแม่ลองดูบทเรียนลูก อาจจะเอามาเน้นกับลูก

 

ที่บ้านเราไม่เคยให้ลูก ท่องศัพท์ค่ะ  คัดศัพท์ด้วย แต่จะต้องอ่านหนังสือทุกวันอย่างน้อยวันละ 30 นาที น้องมีนาต้องได้ดูการ์ตูนอังกฤษทุกวันวันละ 20 นาทีเองมั้งเวลาน้อยค่ะ เค้าสามารถเอามาเชื่อมโยงกัน ถ้าช่วงไหนมีเวลาแม่จะเสริมแบบฝึกหัดให้เค้า เฉพาะวันที่น้องไม่มีการบ้าน หรือพอมีเวลา แบบฝึกหัดที่แม่เสริมให้ ไม่ใช่เอาจากที่เรียน ส่วนใหญ่จะเอาไว้ทดสอบว่าภาษาอังกฤษลูก เค้าเข้าใจหรือเปล่า

 

จากที่สังเกตน้องมีนา  มีนาไม่เคยท่องศัพท์ คัดศัพท์ แต่สามารถเขียนเรื่องราว เป็นภาษาอังกฤษได้ ผิดบางถูกบาง เราก็แค่แนะนำ ว่าที่ถูกต้องเขียนอย่างไร ต่อไปเค้าก็เขียนถูกเอง เค้าชอบแต่งนิทาน เมื่อก่อนเขียนเป็นหน้าๆ เดี๋ยวนี้เขียนเป็นการ์ตูน

 

คุณแม่ลองสังเกต น้องๆดูว่าน้องชอบอะไร เราก็พยายามหาสื่อให้เค้า  ที่โรงเรียนสอนแนวไหนค่ะ คัดศัพท์ ท่องศัพท์แบบนี้หรือเปล่าค่ะ  ถ้าเป็นแบบนี้ คุณแม่ก็ต้องช่วย ถ้าลูกชอบวาดรูปให้เค้าวาดรูปแล้วเขียนคำศัพท์ ลงไป เด็กถ้าเค้าทำอะไรที่เค้าชอบเค้าจะจำได้ดีค่ะ

ที่โรงเรียนมีนา ไม่เน้นแกรมม่า ไม่เน้นให้เด็กท่องศัพท์ มีสอนPhonics เป็นไปตามแนวทางกับทางบ้าน แต่มีนาก็ไม่ได้เรียนเก่งอะไรมากมาย แค่ฟังครูเข้าใจ เพื่อนๆชอบถามเวลาเขียนไม่ได้ เค้าเลยภูมิใจ  แต่ก็มีบางครั้งมาเล่าให้แม่ฟัง เธอสอบได้ศูนย์ ครูเรียกไปสอบใหม่ ถามต้นเหตุ เพราะช่วงที่ครูสอบเธอมัวแต่เล่นไม่ได้ฟังครู แต่พอสอบใหม่ก็ได้เต็ม ก็ต้องตักเตือนเค้า  ถ้าโตไปเค้าไม่มีสอบซ่อมแล้วนะ ได้ศูนย์ก็คือศูนย์

 

ที่เราเล่ามานี่ ไม่ได้หมายความว่าเราเก่งภาษาอังกฤษนะค่ะ เมื่อก่อนภาษาอังกฤษเราเป็นศูนย์เลยค่ะ  แต่เราก็ต้องหาวิธีให้ลูก ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยมากกกกๆๆๆ ก็เราไม่เก่งนิค่ะ เลยต้องเหนื่อยหน่อย แต่ก็พยายามเท่าที่ทำได้ อันไหนทำไม่ได้ ก็ต้องตัดไป ทางเลือกมีหลายทางค่ะ  อันไหนลูกตอบสนองดี ลูกชอบ เราก็ผลักไปเต็มที่ อันไหนลูกไม่เอาด้วย ก็ต้องถอย

 

ต้องการแนวทางไหน ถ้าเราแนะนำได้ เรียกมาเลยค่ะ  ให้กำลังใจคุณแม่สู้ๆๆๆๆๆ ลูกยังเล็กพัฒนาไปได้แน่ ด้วยสองมือกะสมองเราเนี่ยแหละค่ะ

ตอนนี้เวลาไปไหนมาไหนก็พยายามเรียนรู้ตลอด ฝักฟังภาษาอังกฤษใน web site เท่าที่มีเวลา คิดว่าได้ผลบ้างนะคะ เพราะถ้าพูดช้าๆ ศัพท์ที่ไม่ยุ่งยาก ก็พอฟังได้ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ จะพยายามต่อไปค่ะ จะพูดให้บ่อยขึ้นอีก
ขอบคุณมากๆนะคะ สำหรับกำลังใจและคำแนะนำ จะไม่ถอยค่ะ สัญญา

เป็นให้กำลังใจให้ค่ะ 

บางทีวิธีการเรียนรู้ อาจจะฟังดูเครียดๆ(ถ้าเข้าใจผิดขอโทษด้วยนะคะ) อย่างท่องศัพท์ คัดศัพท์

คุณแม่ลองสังเกตุดูนะคะว่าน้องสนุกมั้ย หรือเหนื่อยหน่าย(ทำให้ไม่พร้อมที่จะเรียนรู้)

อาจจะลองหาวิธีเรียนรู้สนุกๆ เช่น การวาดรูป จับคู่ หรือเกมส์ทายศัพท์ หรือวิธีอื่นที่นึกได้

ส่วนตัวแล้วคิดว่า ถ้ามีความสนุกในการเรียนรู้ จะช่วยให้ซึมซับได้ง่ายและจดจำได้ดีกว่าการอัดความรู้โดยที่น้องก็ทำไปตามหน้าที่

แต่วิธีนี้ อาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะ ต้องคิดหาวิธีสนุกๆมาสอนลูก

             ขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้ค่ะ  สงสัยต้องเริ่มใหม่ใช่ไหมคะ แสดงว่าเราทำผิดวิธี ผิดแนวทางใช่ไหม  แล้วตอนนี้ให้เรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งในจังหวัด  ซึ่งจริงๆก็ไม่ตรงกับใจหรอกนะคะ  เพราะเขาจะเน้นเรียนเพื่อสอบค่ะ  แต่ว่ากลังลูกได้คะแนนต่ำอีก เลยให้ลองเรียนดูเทอมนี้ก่อน  เขาจะให้เรียนโดยเน้นทุกส่วน  เหมือนจะเน้น grammar reading นะคะ  แล้วเห็นลูกเรียน  เขียนแปลทุกคำ เหมือนที่เราเรียนตอนเด็กๆเลย  ก็เลยพยายามเน้นคำศัพท์ลูกที่บ้านแบบให้ดูรูป พยายามไม่แปลค่ะ  แล้วในความเห็นของคุณแม่น้อนต้นไม้ 

             คิดว่าควรเริ่มใหม่เลยดีไหม  คือเริ่มบอกคำศัพท์ใหม่ก่อนเยอะๆใช่ไหมคะ  โดยไม่แปลให้เขาจำเป็นภาพ คำนาม คำกริยา  แล้วค่อยผูกประโยคงายๆ ก่อนใช่ไหมคะ มาตอนนี้ชักไปไม่ถูกแล้วเนี่ย  อย่าเพิ่งให้เขาสะกดคำใช่ไหม ให้เขาจำคำศัพท์ได้ก่อน พูดได้ก่อน  แล้วค่อยอ่าน แล้วก็เขียนสะกดคำ ใช่ไหมคะ  ที่ลัดขั้นตอนไปสะกดคำก่อนเพราะว่าคิดว่าลูกพอบอกได้  ก็เลยหัดให้คัดศัพท์ เพราะกลัวไม่ทันในห้องเรียน  แสดงว่าเราต้องตามลำดับ ฟัง พูด ให้แม่นก่อน แล้วค่อยอ่านเขียนใช่ไหมคะ  แล้วถ้าสมมุติว่าลูกเราสามารถบอกรู้จักคำศัพท์ได้เยอะแล้ว  แต่ยังอ่านไม่ค่อยถูก สะกดยังไม่ถูก  ก็ค่อยฝึกทีหลังใช่ไหมคะ  ชักงงๆแล้วค่ะ  เอ มันจะมีไหม่นี่บอกคำศัพท์ได้เยอะ แต่เขียนไม่ถูกเนี่ย  แต่จะพยายามพูดภาษาอังกฤษกับลูก่ต่อไปค่ะ  ขอบคุณมากๆนะคะให้คำแนะนำ

เราไม่มีประสบการณ์แต่ขอแลกเปลี่ยนความคิดนะคะ  คุณแม่คงงงมากเพราะที่ลูกเรียนเพื่อสอบ มันคนละเรื่องกับระบบสองภาษาจากความรู้สึกเลย

ถ้าเป็นเรา เราจะขอยึดหลักการสองภาษาที่นี่ คือเห็นบ่อยๆ ใช้บ่อยๆ พูดโดยไม่แปล ไม่สอนไวยากรณ์ เช่น สอนศัพท์โดยให้ดูภาพ ดูบัตรคำ แต่ไม่บอกว่าแปลว่าอะไร  สอนแกรมม่าโดยการใช้จริง เช่น What are you doing? ลูกตอบ I am watching TV. แต่ไม่สอนเรื่องกริยาเติมing

และเราช่วยเรื่องเรียนลูกโดย ถ้าคำไหนสอนที่โรงเรียน ก็ต้องหาโอกาสให้เค้าได้เห็น ได้ใช้ศัพท์คำนั้นบ่อยๆ ประโยครูปแบบไหนที่ครูสอนที่โรงเรียน ก็เอามาพูดกับลูกบ่อยๆ น่าจะพอให้ลูกชินและเข้าใจบทเรียนมากขึ้้นไปในตัว

อย่ากดดันตัวเองและลูกเกินไป แม่เครียดลูกก็เครียด  ทำให้สนุก เป็นเกม ดูการ์ตูน เป็นเพลงจำได้ดีกว่า สอนคนเล็กคนโตพร้อมกันไปเลย เพราะศัพท์ก็คำเดียวกัน จะได้เพิ่มความถี่ สู้ๆนะคะ^^

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service